"แฟรงค์เฟิร์ต"ปะทะ"เรนเจอร์ส"ศึกชิงดำยูโรปาคืนนี้

ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2021-22 เตรียมระเบิดศึกในคืนนี้ ที่สนาม เอสตาดิโอ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เมืองเซบีย่า ประเทศสเปน โดยจะเป็นการพบกันระหว่าง "อินทรีแดงดำ" ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต จากเยอรมนี พบกับ "เดอะ ไลท์บลูส์" กลาสโกว์ เรนเจอร์ส จากสกอตแลนด์ ในเวลา 02.00 น.

ผลงาน 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
แฟร้งค์เฟิร์ต

• 06/05/22 ชนะ เวสต์แฮม 1-0 (เหย้า)
• 29/04/22 ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เยือน)
• 15/04/22 ชนะ บาร์เซโลน่า 3-2 (เยือน)
• 08/04/22 เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 (เหย้า)
• 18/03/22 เสมอ เรอัล เบติส 1-1 (เหย้า)

เรนเจอร์ส

• 06/05/22 ชนะ ไลป์ซิก 3-1 (เหย้า)
• 29/04/22 แพ้ ไลป์ซิก 0-1 (เยือน)
• 15/04/22 ชนะ สปอร์ติ้ง บราก้า 2-1 (เยือน) / ชนะต่อเวลา
• 08/04/22 แพ้ สปอร์ติ้ง บราก้า 0-1 (เยือน)
• 18/03/22 แพ้ เซอร์เวน่า ซเวซด้า 1-2 (เยือน)

สภาพความพร้อมล่าสุด
แฟรงค์เฟิร์ต
"อินทรีแดงดำ" ของกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ผลงานล่าสุดเสมอไมน์ซ 2-2 ในเกมลีกนัดปิดซีซั่น ทำให้ไม่แพ้ใครมา 3 นัดติดต่อกัน ส่วนสภาพความพร้อมเกมนี้ยังมีปัญหาอยู่หลายตำแหน่ง โดยจะไม่มี ดิอันท์ รามาจ์ กับ มาร์ติน ฮินเตอเร็กเกอร์ ที่บาดเจ็บ และยังต้องรอทดสอบความฟิตของ เอว็อง เอ็นดิคก้า ที่เจ็บจากเกมล่าสุด รวมถึง เยสเปอร์ ลินด์สตรอม กับ แดนนี่ ดา คอสต้า ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาอีกด้วย

ด้านการจัดทัพคาดว่าจะมาในระบบ 3-4-2-1 แนวรุกจะวาง ไดจิ คามาดะ กับ เยนส์ เฮาเก้ คอยปั้นเกมรุกคอยสนับสนุน ราฟาเอล บอร์เร่ ที่ยืนเป็นหน้าเป้าล่าตาข่าย

เรนเจอร์ส
"เดอะ ไลท์บลูส์" ของกุนซือ โจฟานนี่ ฟาน บร็องฮอร์สต์ ที่กำลังมีลุ้นคว้าทริปเปิ้ล แชมป์อีกด้วย เพราะนอกจากยูโรป้า ลีกแล้ว ยังมี สกอตติช คัพ ที่พวกเขาจะเข้าไปชิงกับ ฮาร์ทส์ อีกด้วยในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่เกมลีกคว้าแชมป์ได้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสภาพความพร้อมเกมนี้จะไม่มี ยานิส ฮาจี้, ฟิลิป เฮลันเดอร์ และ อัลเฟรโด้ โมเรลอส ดาวยิงตัวเก่งที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนาม นอกจากนี้ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ไรอัน แจ็ก กับ เคมาร์ รูฟ อีกด้วย 

ด้านการจัดทัพ บรรดาแกนหลักที่ได้พักในนัดที่แล้วอย่าง เจมส์ เทเวอร์เนียร์ กัปตันทีม, คอเนอร์ โกลด์สัน, คัลวิน บาสซี่ย์, เกล็นน์ กามาร่า, จอห์น ลันส์แทรม, ไรอัน เคนท์ และ โจ อาริโบ จะคัมแบ็กคืนตัวจริงทั้งหมด โดยคาดว่าจะมาในระบบ 5-4-1 ใช้ ไรอัน เคนท์ กับ สกอตต์ ไรท์ คอยปั้นเกมสนับสนุนหัวหอกตัวเป้าอย่าง โจ อารีโบ