ยูซีแอลคืนนี้ หงส์บุกรังเบนฟิกา, เรือใบรอรับมือ แอต.มาดริด

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก คู่แรก "เหยี่ยวลิสบอน" เบนฟิกา จะเปิดสนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในเวลา 02.00 น.

สภาพความพร้อมล่าสุด
เบนฟิกา
"เหยี่ยวลิสบอน" ของกุนซือ เนลซอน เวริสซิโม่ เพิ่งจะแพ้บราก้า 2-3 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 10 เกมรวมทุกรายการ ส่วนความพร้อมเกมนี้ จะไม่มีลูคัส เวริสซิโม่และโรดริโก้ ปินโญ่ กองหน้าตัวสำรองเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ อเดล ทารับต์ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา ยังต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง 

ขณะที่การจัดทัพเกมนี้ คาดจะมาในระบบ 4-3-3 สามประสานกองหน้าเป็นดาร์วิน นูนเญซ, กอนซาโล่ รามอส และ ราฟา ซิลวา 

ลิเวอร์พูล
"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เกน คล็อปป์ เพิ่งจะเอาชนะ วัตฟอร์ด 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติดติดกันรวมทุกรายการ ส่วนความพร้อมเกมนี้ต้องลุ้นความฟิตของ เคอร์ติส โจนส์, โฌแอล มาติป  และ นาบี เกอิต้า ที่มีอาการเจ็บรบกวนเล็กน้อย แต่ในรายของเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายเจ็บพร้อมลงสนาม

สำหรับการจัดทัพ จะมาในระบบ 4-3-3 สามประสานกองหน้าเป็นซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์
--------------------
 

อีกคู่หนึ่ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ในเวลา 02.00 น.

สภาพความพร้อมล่าสุด
แมนฯซิตี้
"เรือใบสีฟ้า" ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งบุกอัดเบิร์นลี่ย์ 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ส่วนความพร้อมเกมนี้ยังไม่สามารถใช้งาน รูเบน ดิอาส กองหลังตัวเก่งซึ่งเจ็บยาวอยู่เดิม รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย ส่วนจอห์น สโตนส์ ที่ถูกพักไว้ในเกมล่าสุด เพราะไม่สมบูรณ์ ก็น่าจะพร้อมกลับมาช่วยทีมได้ในเกมนี้ 

ด้านการจัดทัพจะมาในระบบ 4-3-3 วาง ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น และ แจ็ค กรีลิช ปักหลักในแดนหน้า และใช้ เควิน เดอ บรอยน์ คุมเกมกลางสนาม

แอต.มาดริด
"ตราหมี" ของกุนซือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ผลงานกำลังร้อนแรง ล่าสุดถล่มอลาเบส 4-1 ในเกมลีก เป็นการคว้าชัย 5 นัดติด ส่วนความพร้อมเกมนี้ ยังไม่มียานนิค การ์ราสโก้ ที่เหลือโทษแบนอีก 1 นัด และ โฮเซ่ ฆิเมเนซ ที่เจ็บจากเกมล่าสุดก็จะชวดลงสนามเช่นกัน 

สำหรับการจัดทัพ จะมาในระบบ 3-5-2 ใช้ อ็องตวน กรีซมันน์ กับ ชูเอา เฟลิกซ์ ประสานงานในแดนหน้า โดยมี โรดริโก้ เด ปอล,  เจฟเฟร่ย์ กงด็อกเบีย และ โกเก้ ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม