สำหรับ "พย็องชังเกมส์ 2018" มีการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว 15 ชนิดกีฬา กำหนดพิธีเปิดวันที่ 9 ก.พ.61 และพิธีปิดวันที่ 25 ก.พ.61 โดยทัพไทยจะมี นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เป็นหัวหน้านักกีฬา ที่ผ่านมาไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพราะมีนักกีฬาที่มีความสามารถผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของสหพันธ์กีฬานั้นๆ ได้หลายคน ที่สำคัญเรายังได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก แม้ว่าผลงานของนักกีฬาจะไม่มีเหรียญรางวัลติดไม้ติดมือมาก็ตาม แต่นานาชาติก็ยกย่องมากเพราะการได้มีส่วนร่วมกับการแข่งขันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมแล้ว
นายภูมิชาย วิเชียรสิงห์ เลขาธิการสมาคมกีฬาสกีและสโนว์บอร์ดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักกีฬาที่ได้โควตาแน่นอนแล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายมรรค จันเหลือง กับ นส.คาเรน จันเหลือง นักกีฬาสกี ประเภทครอสคันทรี ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน โดยเป็นนักกีฬาลูกครึ่งไทย-อิตาลี มีพ่อเป็นชาวจังหวัดยโสธร กับ นายนิโคลา ซาโนน นักกีฬาสกี ประเภทอัลไพ ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี เช่นกัน มีคุณแม่เป็นชาวจังหวัดแพร่ ส่วนอีกคนที่ไม่น่าพลาดโควตาก็คือ นส.อเล็กเซียร์ อาริสราห์ เชนเคล นักกีฬาสกี ประเภทอัลไพ เป็นลูกครึ่งไทย-สวิส คุณแม่เป็นชาวจังหวัดนครพนม
นายภูมิชาย ยังกล่าวอีกว่า เรามีเวลาในการเก็บตัวฝึกซ้อมอีก 2 เดือนเต็มๆ ซึ่งนักกีฬาทั้งหมดฝึกซ้อมอยู่ที่อิตาลี เป็นหลัก รวมทั้งที่ฝรั่งเศสด้วย โดยสมาคมฯ ได้จ้างโค้ชชาวต่างประเทศดูแล พร้อมส่งรายงานข้อมูลการฝึกซ้อมประจำวันกลับมาประเทศไทยอย่างละเอียด และการที่ สมาคมฯ คว้าโควตามาเต็มทีม 4 คน นั้น ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะ มรรค จันเหลือง ที่ติดอันดับ 11 ของการแข่งขัน ส่วนในโอลิมปิกเกมฤดูหนาวครั้งนี้นักกีฬาหวังทำผลงานให้ดีที่สุด แม้ว่าโอกาสที่จะหยิบเหรียญรางวัลจะยากเต็มทีก็ตาม แต่สมาคมฯ มั่นใจว่านักกีฬาทั้ง 4 คน จะติดท็อป 30 ของการแข่งขันอย่างแน่นอน
"กีฬาโอลิมปิเกมส์ฤดูหนาว เป็นการแข่งขันที่โหดมากเพราะต้องแข่งขันบนพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,100 เมตร ฉะนั้นสภาพอากาศจึงเบาบางมาก นักกีฬาที่เข้าแข่งขันจะต้องทรหดอดทน เพราะแค่หายใจก็ลำบากแล้ว" นายภูมิชาย กล่าวในที่สุด