svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวประชาสัมพันธ์

“คืบหน้าแล้ว!! โครงการประตูระบายน้ำห้วยสำราญ“ ความหวังใหม่ชาวศรีสะเกษ

.

KEY

POINTS

  • โครงการประตูระบายน้ำห้วยสำราญ (ระยะที่ 2) คืบหน้าแล้วกว่า 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569
  • มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาอุทกภัยซ้ำซากและภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
  • เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรได้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่
  • เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนกว่า 800 ครัวเรือน และสนับสนุนการปศุสัตว์ในพื้นที่

วานนี้ (15 ก.ค. 68) บริเวณโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยสำราญ จังหวัดศรีสะเกษ นายกิตติธัช เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าของโครงการประตูระบายน้ำห้วยสำราญ (ระยะที่ 2) ในพื้นที่ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำของพื้นที่ลุ่มน้ำมูล มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในฤดูฝน และปัญหาภัยแล้งในฤดูแล้ง ที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่มาหลายปี

“คืบหน้าแล้ว!! โครงการประตูระบายน้ำห้วยสำราญ“ ความหวังใหม่ชาวศรีสะเกษ

เดิมพื้นที่แห่งนี้ ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรริมลำห้วยสำราญที่ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการระบายน้ำยังไม่สามารถควบคุมได้ดี ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและเกษตรกร ในพื้นที่ตำบลโพธิ์และพื้นที่ใกล้เคียง กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานศรีสะเกษ  จึงได้ก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยสำราญและอาคารประกอบขึ้น เพื่อควบคุมและบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“คืบหน้าแล้ว!! โครงการประตูระบายน้ำห้วยสำราญ“ ความหวังใหม่ชาวศรีสะเกษ

นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า ปัจจุบัน โครงการประตูระบายน้ำห้วยสำราญ (ระยะที่ 2) คืบหน้าแล้วกว่า 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 ซึ่งหากแล้วเสร็จ จะช่วยคลี่คลายปัญหาน้ำหลาก น้ำแล้ง  เป็นประโยชน์ต่อชุมชนในระยะยาว สามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรได้มากถึง 3,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโพธิ์และหมู่บ้านใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับใช้อุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนกว่า 800 ครัวเรือน รวมถึงรองรับการเลี้ยงสัตว์และกิจกรรมปศุสัตว์ในพื้นที่อีกด้วย โครงการฯนี้ไม่ใช่แค่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่คือการวางรากฐานเพื่อความมั่นคงด้านน้ำของพี่น้องเกษตรกรชาวศรีสะเกษในอนาคต