svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวประชาสัมพันธ์

กว่าจะมาเป็นกระทรวงการคลัง

กระทรวงการคลัง เป็นกระทรวงที่อยู่คู่ประเทศไทยมาช้านาน เปรียบเสมือนหัวใจหลักของประเทศ บริหารเงินตราและทรัพยากรที่สำคัญ แต่กว่าจะเป็นกระทรวงการคลังอย่างที่เห็นทุกวันนี้ มีวิวัฒนาการที่หลากหลายตามยุคสมัย เริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัย

สมัยสุโขทัย มีระบบการเงินเรียกว่า ส่วยสาอากร แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่

  • จังกอบ เป็นภาษีที่เกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก โดยจะจัดเก็บในรูปแบบเงินตามขนาดของพาหนะที่ขนส่งสิ่งของมา หรือจะเก็บเป็นสิ่งของก็ได้ 
  • อากร เป็นภาษีที่เก็บจากอาชีพของราษฎร เช่น ทำนา โดยจัดเก็บเป็นเงินหรือสิ่งของก็ได้เช่นกัน
  • ส่วย มีความหมายอย่างน้อย 4 อย่าง 
  1. เป็นเครื่องราชบรรณาการจากต่างเมือง 
  2. เงินจากผู้ชายที่ไม่ได้รับราชการทหาร โดยรัฐบาลคุ้มครองตามกฎหมาย
  3. เงินที่ราชการขอความร่วมมือเก็บจากประชาชนเป็นกรณีพิเศษ
  4. ทรัพย์สมบัติของราษฎรที่เสียชีวิตแล้ว จึงตกเป็นของหลวง
  • ฤชา เป็นค่าธรรมเนียมที่ราชการเก็บจากราษฎร เช่น ฤชาที่ดิน

ส่วยสาอากร ถือเป็นจุดเริ่มต้นระบบภาษีศุลกากร ที่กระทรวงฯ ใช้ภาษีเหล่านี้พิทักษ์พระราชทรัพย์ของพระราชา 

ต่อมาสมัยอยุธยาตอนต้น มีระบบการปกครองแบบ “จตุสดมภ์” มีอยู่ 4 กรม ได้แก่ เวียง วัง คลัง นา…

  • กรมเวียง มีหน้าที่ดูแลเมืองหลวง รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รวมถึงดูแลเรือนจำด้วย หากเปรียบเทียบกับปัจจุบัน กรมนี้ทำหน้าที่คล้าย กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงมหาดไทยรวมกัน
  • กรมวัง มีหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระราชวัง ตั้งแต่ดูแลพระราชฐาน การเงินภายในวัง ดูแลงานพระราชพิธีต่างๆ รวมถึงงานด้านยุติธรรมด้วย โดยจะดูแลศาลหลวง และศาลในหัวเมือง 
  • กรมคลัง ที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นกระทรวงการคลัง มีหน้าที่ดูแลรายรับรายจ่ายของประเทศ การค้าขายกับต่างประเทศ การเก็บภาษีต่างๆ โดยจะมีกรมในสังกัดอย่าง กรมพระคลังสินค้า ทั้งนี้ ดูแลคณะทูตจากต่างชาติด้วย โดยมีกรมท่า คอยดูแลในส่วนนี้ 
  • กรมนา มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับที่ดิน ที่นา รังวัด กระบวนการทำนา คาดการณ์ปริมาณน้ำฝนเพื่อการเกษตรต่างๆ จัดการเรื่องสัตว์พาหนะ รวมถึงจัดการพิธีแรกนาอีกด้วย

ในสมัย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ มีการปฏิรูป ปรับเปลี่ยนระบบจตุสดมภ์ให้ซับซ้อนขึ้น โดยตั้งกรมเพิ่ม 2 กรม คือกรมกลาโหม กับกรมมหาดไทย เพื่อแยกทหารกับพลเรือนออกจากกัน 

กรมกลาโหม จะดูแลเรื่องความมั่นคง ดูแลฝ่ายทหารโดยเฉพาะ ส่วนกรมมหาดไทย จะดูแลความเรียบร้อยในส่วนพลเรือน ซึ่งหมายถึงจตุสดมภ์อย่าง กรมเวียง กรมวัง กรมคลัง และกรมนาด้วย

มาถึงสมัยอยุธยาตอนปลาย การปกครองแบบจตุสดมภ์สิ้นสุดลง เพราะวิวัฒนาการของลัทธิจักรวรรดินิยม และการทำสนธิสัญญาเบาว์ริง ทำให้ต้องปรับปรุงระบบการค้า ระบบการยุติธรรมให้ทันสมัยมากขึ้น ผนวกกับความซับซ้อนของสังคม จึงทำให้ระบบจตุสดมภ์ ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ

ดังนั้น ในสมัยรัตนโกสินทร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ร.5 เป็นต้นมา มีการเปลี่ยนแปลงกระทรวงครั้งใหญ่ แต่ก่อนที่จะไปเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการคลังนั้น เราผ่านไปย้อนอ่านเรื่องราวการคลังในแต่ละรัชสมัยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

ใน สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 มีพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เรียกว่า เงินถุงแดง เป็นเงินสำรองฉุกเฉินของประเทศ โดยเงินที่อยู่ในถุงแดง มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเงินของต่างประเทศ เนื่องจากสมัยนั้นสกุลเงินต่างประเทศเป็นที่ยอมรับ ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวต่างชาติ ซึ่งเคยรุ่งเรืองที่สุดในยุคหนึ่ง ส่วนเงินที่ใช้ทั่วไปในไทยเรียกว่า “เงินพดด้วง” ใช้สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนในไทย

และสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 นี้ มีการทำสนธิสัญญากับชาวตะวันตก นั่นคือ สนธิสัญญาเบอร์นี 

ส่วนสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีการทำสนธิสัญญาเบาวริ่ง ถือเป็นการพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยครั้งหนึ่ง เพราะต้องเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษี จากเดิมที่ไม่มีแบบแผน เปลี่ยนเป็นคิดเปอร์เซนต์ มีระบบศุลกากร ตั้งโรงกษาปณ์เพื่อผลิตเงินตราสำหรับแลกเปลี่ยน แทนการแลกด้วยสิ่งของแบบเดิม และค้าขายกับชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งเงินตราที่ผลิตมายังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายสำหรับประชาชนมากนัก และในยุคสมัยนี้เป็นต้นกำเนิดธนาคารในไทย แต่ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ

สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นช่วงที่ยกเลิกจตุสดมภ์ ตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ เพื่อใช้เป็นสำนักงานสำหรับเจ้าหน้าที่ในกรมพระคลังฯ โดยกรมฯ มีหน้าที่รับจ่าย ถือบัญชีพระราชทรัพย์ รักษาเงินแผ่นดิน และเก็บภาษีทั่วราชอาณาจักร 

โดยกรมคลังฯ ในช่วงนี้มีการปรับเปลี่ยนหน้าที่ที่รับผิดชอบ เป็นงานการดูแลทรัพย์สินของรัฐอย่างเดียว และถูกสถาปนา จากกรม เป็น กระทรวง ส่วนงานทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ จะเป็นการดูแลของพระคลังข้างที่ หรือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ส่วนหน้าที่อื่นๆ ที่กรมนี้เคยทำในสมัยก่อนก็มีกระทรวงอื่นอีก 11 กระทรวงมารับหน้าที่ตรงนี้ ได้แก่

  1. กระทรวงมหาดไทย 
  2. กระทรวงกลาโหม
  3. กระทรวงยุทธนาธิการ
  4. กระทรวงนครบาล
  5. กระทรวงยุติธรรม
  6. กระทรวงวัง
  7. กระทรวงธรรมการ
  8. กระทรวงเกษตรพานิชการ
  9. กระทรวงโยธาธิการ
  10. กระทรวงการต่างประเทศ
  11. กระทรวงมุรธาธร

โดยในยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นี้ มีเหตุการณ์สำคัญ คือ 

  • วิกฤตการณ์ ร.ศ.112 เกิดกรณีพิพาทไทยกับฝรั่งเศส ร.5 จึงต้องนำเงินถุงแดงมาใช้ เพื่อให้ไทยรอดพ้นจากการตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส 
  • เริ่มใช้ “ธนบัตร” สำหรับแลกเปลี่ยนในปี พ.ศ. 2445 ปลายรัชสมัยของ ร.5 โดยมีพระราชบัญญัติธนบัตร ร.ศ. 121 ผลิตธนบัตรเพื่อใช้แลกเงินของประชาชน สะดวกต่อการตรวจและเก็บรักษา รวมถึงตั้งกิจการธนาคารแห่งแรกในสยาม ที่เป็นของไทย ในชื่อว่า “บุคคลัภย์” (Book Club) เพื่อทดลองการรับฝากเงินก่อน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

โดยบุคคลัภย์ถูกพัฒนากลายเป็นธนาคารแห่งแรกของไทย ชื่อว่า สยามกัมมาจล หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบันนั่นเอง 

ธนาคารสยามกัมมาจล

จากนั้นในปี พ.ศ. 2453 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระคลังในท้องที่ต่างๆ ให้รวมศูนย์อยู่ภายใต้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ โดยบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2458 เป็นต้นมา

ในช่วงนี้มีการปฏิรูปการคลัง จัดเก็บภาษีเพื่อมาเป็นเงินเดือนให้แก่ขุนนาง เรียกว่า เงินค่าราชการ โดยจะเก็บจากชายไทย ตั้งแต่อายุ 18-60 ปี ตาม พ.ร.บ. เก็บเงินค่าราชการ ร.ศ. 120 โดยเงินนี้ถือว่าเป็นรายได้หลักของไทย

แต่แล้วเงินค่าราชการมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง เนื่องจาก พ.ร.บ. เก็บเงินฯ มีข้อยกเว้นบุคคล 14 ประเภท ซึ่งแต่ละปีจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี จึงต้องเปลี่ยนเป็น เงินรัชชูปการ ที่จำกัดคนที่ได้รับการยกเว้นน้อยลง ทำให้เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น แต่หลักการอื่นๆ แทบไม่ต่างจาก พ.ร.บ. เก็บเงินฯ 

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในปี พ.ศ 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ระบบการเงินของประเทศไทยจึงเปลี่ยนตามไปด้วย

อ้างอิง กระทรวงการคลัง

การตรวจเงินแผ่นดินสมัยโบราณในระบบบริหารราชการแบบจตุสดมภ์

ส่วย คำศัพท์ที่มีความหมายในแง่ลบบนสื่อ มาจากไหน?

"เงินถุงแดง" อิสรภาพไทย แลกด้วยค่าไถ่ 3 ล้านฟรังก์ ร.ศ. 112 หาเงินจากไหนให้ฝรั่งเศส

มรณกรรมของ “โกรสกือแร็ง” ฟางเส้นสุดท้ายสู่วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

เงินรัชชูปการ ภาษีซึ่งเก็บจากความเป็นราษฎร

ประวัติการก่อตั้ง "สยามกัมมาจล"