ดูดเร็วยุบเร็ว “เนวิน” ชิงรุกส้ม-แดง “ภูมิใจไทย” โตพรวด ดีลบ้านใหญ่ฝ่ายขวา

ดีลดูดดึง เนวิน เป็นต่อส้ม-แดง ภูมิใจไทย โตพรวด บ้านใหญ่ปักษ์ใต้ไหลซบน้ำเงิน จ่อตีแตกซุ้มเด็กนายใหญ่อีสาน

ตลาดนัด สส.เปิดแล้ว เขากระโดงส่งสัญญาณ ไม่รอ 4 เดือน พร้อมยุบสภา วางยุทธศาสตร์สามัคคีบ้านใหญ่ฝ่ายขวา ขี่กระแสรักชาติ

มิทันที่รัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อการยุบสภา โดยการนำ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะได้นำ ครม.แถลงนโยบายต่อสภาฯ ก็มีปรากฏการณ์ “เนวินเนื้อหอม” นักเลือกตั้งบ้านใหญ่ไหลเข้าพรรคสีน้ำเงิน

ครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ พลิกสถานการณ์จากฝ่ายค้านเป็นฝ่ายรัฐบาล ด้วยดีลสุดพิสดาร MOA กับพรรคประชาชน มีภารกิจสำคัญคือ ประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ในปี 2569

ภายใต้เงื่อนไข 4 เดือน ยุบสภา ครูใหญ่บุรีรัมย์เตรียมการจัดทัพอย่างเร่งรีบ สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของซุ้มบ้านใหญ่ปักษ์ใต้ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มขยับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย

แหล่งข่าวใกล้ชิดบ้านใหญ่เขากระโดง เปิดเผยว่า นายกฯ อนุทิน อาจตัดสินใจยุบสภา ก่อนครบเงื่อนไข 4 เดือน เนื่องจากปมแก้รัฐธรรมนูญจะก่อปัญหาพรรคสีส้ม และพรรคสีน้ำเงิน ขัดแย้งกันอย่างหนัก
 

ปัจจัยเร่งที่จะทำให้เกิดการยุบสภาฯ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้คือ 1.ดีล-ดูด-ดึง ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย 2.ปรากฏการณ์คนรักชาติ ยังเป็นกระแสสูง 3.การแก้รัฐธรรมนูญส่อเค้าสะดุด

เปิดตลาดนัด สส.เหนือ-อีสาน
 

ย้อนไปดูการเลือกตั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย เข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้งปี 2554 ต้องต่อสู้กับข้อกล่าวหา “พรรคงูเห่า” และเป็นฝ่ายค้านอยู่ 2 ปี

ปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ชูแบรนด์ “พรรคพูดแล้วทำ” ขายนโยบายกัญชา เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 3 มีเพียง 51 เสียงในสภา ร่วม รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา

ปี 2566 มนต์ทักษิณอ่อนแรง กระแสแอนตี้เนวินเริ่มเจือจาง และค่ายสีน้ำเงินวางโพสิชั่นนิ่งเป็น “พรรคบ้านใหญ่” ได้ สส.ทั้งสองระบบ 70 คน (ปัจจุบันเหลือ 69 คน)

การเลือกตั้งปี 2569 ครูใหญ่เนวิน และนายกฯ อนุทิน น่าจะตั้งเป้ากวาด สส.ให้ได้เกิน 120 ที่นั่ง จึงเร่งสะสมกำลัง “นักเลือกตั้ง” ระดับบ้านใหญ่ทั่วประเทศ

ภาคอีสาน ศักดิ์ดา ศรีวิเชียร รมช.มหาดไทย ดูด สส.ค่ายสีแดงมาได้แล้ว 5 คน (ไม่นับรวม สส.ภาคกลาง-ตะวันออก) ยังถือว่า น้อยเกินไป

ดังนั้น ศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายครูใหญ่คงต้องออกแรงเปิดดีลซุ้มบ้านใหญ่อีสานกลาง และซุ้ม สส.อีสานใต้ ดึงเด็กนายใหญ่มาเพิ่มอย่างน้อยอีก 20 คน

ภาคเหนือตอนบน น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของค่ายสีน้ำเงิน เนื่องจาก สส.เพื่อไทยส่วนใหญ่ คงปักหลักอยู่กับค่ายนายใหญ่

ภาคเหนือตอนล่าง สันติ พร้อมพัฒน์ และ อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ตกลงเข้าสู่อ้อมอกพรรคสีน้ำเงินเรียบร้อยแล้ว

สามัคคีบ้านใหญ่ฝ่ายขวา
 

มีความชัดเจนจากบ้านใหญ่ปักษ์ใต้ 4 ซุ้มคือ กลุ่มพลังชุมพร โดย “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส ที่นำ สส.ชุมพร 2 คน พร้อมทีม อบจ.ชุมพร สมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท.เรียบร้อยแล้ว

กลุ่มพลังสุราษฏร์ โดย ชุมพล กาญจนะ และโสภา กาญจนะ นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่มี สส.สุราษฏร์ฯ 3 คน จ่อคิวเข้ามาเปิดตัวที่ค่ายสีน้ำเงิน

กลุ่มบ้านใหญ่เมืองตรัง นำโดย “โกหนอ” สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ที่ดูแล สส.ตรัง พรรค ปชป. 2 คนคือ สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ และ กาญจน์ ตั้งปอง พ่วงด้วย ทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ ก็เตรียมย้ายเข้าพรรค ภท.ในเร็ววันนี้

กลุ่มบ้านใหญ่สงขลา โดย นิพนธ์ บุญญามณี อดีตแม่ทัพ ปชป.ที่มี สส. 2 คนคือ สรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา และ สมยศ พลายด้วง สส.สงขลา ได้ย้ายมาร่วมพรรค ภท.เรียบร้อยแล้ว

ทีมงาน โกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ ประเมินว่า สมัยหน้า ค่ายสีน้ำเงินน่าจะกวาด สส.ปักษ์ใต้ ไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง

เมื่อมองภาพรวมทั้งกระดานแล้ว หากกระแสข่าว “ทุนใหญ่” อาจตัดสินใจยุติการแสวงหา “โอกาสใหม่” ไว้ชั่วคราว โดยระดม 16 สส.สวมเสื้อสีน้ำเงินสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า ตามยุทธศาสตร์ “สามัคคีบ้านใหญ่ฝ่ายขวา” 

ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง อาจจะทำให้พรรคสีน้ำเงิน มี สส.ขยับขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ตามเป้าหมายครูใหญ่เขากระโดง

เหนืออื่นใด กลยุทธ์ “ดูดเร็ว” ต้องสัมฤทธิ์ผล จึงจะตามมาด้วยเกม “ยุบเร็ว” ไม่เกิน 3 เดือน