เปิด 3 ร่างคำร้อง "มือ กม.เพื่อไทย" ไล่เช็กบิล "อนุทิน-ภูมิใจไทย-ประชาชน"
เปิด 3 ร่างคำร้อง "มือ กม.เพื่อไทย" ไล่เช็กบิล "อนุทิน-ภูมิใจไทย-ประชาชน"
16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย ได้ ร่างคำร้อง ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัยสมาชิกภาพ ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว โดยระบุว่า
เรื่อง ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพ ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๗๐ (๔) ประกอบมาตรา ๑๖๐ (๔) และ (๕)
กราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฎร
สิ่งที่ส่งมาด้วย (๑) สำเนาหนังสือประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย
(๒) สำเนาหนังสือแจ้งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญ
ประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ระเบียบวาระเรื่องด่วน ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
หนังสือเลขที่ สผ ๐๐๑๔/ผ ๙๕ ลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๘
(๓) สำเนาผลการตรวจนับคะแนนเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้ง
เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปี
ครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568
(๔) สำเนาราชกิจจานุเบกษา ประกาศแต่งตั้งให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๘
(๕) สำเนาหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ ยธ ๐๘๒๔/๐๐๕๐ เรื่องแจ้งความคืบหน้าผล
การสืบสวน และขอความเห็นการดำเนินคดี ฉบับลงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
(๖) สำเนาหนังสือแจ้งข้อกล่าวหานายอนุทิน ชาญวีรกูล ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน
ชุดที่ ๒๖ กกต. ฉบับลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๘
ข้าพเจ้า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ร้องและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหมด ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา
๘๒ วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติขอใช้สิทธิในการตรวจสอบฝ่ายบริหารในระบบรัฐสภา
โดยพิจารรณา พร้อมพยานหลักฐานที่ปรากฏโดยชัดแจ้ง เห็นว่า ความเป็นสมาชิกภาพของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงเฉพาะราย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๗๐ (๔) เพราะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๖๐ (๔) หรือ (๕) ประกอบมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
รวมทั้ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยมีข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ดังรายละเอียดที่จะกราบเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๑ พรรคภูมิใจไทย ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองฯลฯ
นอกจากนี้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย ยังร้องตรวจสอบ "เท้ง" พรรคประชาชนด้วย
เรื่อง ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิผู้ถูกร้องที่ ๑ กับพวกรวม ๒๑๒ คน สิ้นสุดลง เฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๗), ๑๑๔ ประกอบ ๑๘๕ (๑) และ (๒)
กราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฎร
สิ่งที่ส่งมาด้วย (๑) สำเนาหนังสือบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือก บุคคลไปลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฉบับลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๘
(๒) คลิปบันทึกรูปภาพและเสียง คำแถลงลงนามบันทึก MOA ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ประชาชนและนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย
ข้าพเจ้า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ร้องและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหมด ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๘๒ วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ
ขอใช้สิทธิในการตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ในระบบรัฐสภา โดยพิจารณาพร้อมพยานหลักฐาน ที่ปรากฎโดยชัดแจ้ง เห็นว่า ความเป็นสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้ถูกร้องที่ ๑ กับพวกจำนวน ๒๑๒ คน (ปรากฏรายชื่อ/สกุลผู้ถูกร้องแนบท้าย) สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐๑ (๗), ๑๑๔ ประกอบมาตรา ๑๘๕ (๑) และ (๒)
โดยมีข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ดังรายละเอียดที่จะกราบเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิผู้ถูกร้องที่ ๑ กับพวกจำนวน
๒๑๒ คน ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล
(พรรคประชาชน) และพรรคภูมิใจไทย ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลรับรองรายชื่อ นายณัฐพงษ์
เรืองปัญญาวุฒิ ผู้ถูกร้องที่ ๑ กับพวกจำนวน ๒๑๒ คน ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้ถูกร้องที่ ๑ กับพวก ถึงผู้ถูกร้องลำดับที่ ๑๔๓ คน ได้ย้ายไปสังกัดพรรคประชาชน
ส่วนผู้ถูกร้องลำดับที่ ๑๔๔ ถึง ๒๑๒ ยังสังกัดพรรคภูมิใจไทย รายละเอียดปรากฏตามสำเนารายชื่อ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องลำดับที่ ๑ ถึงลำดับที่ ๒๑๒ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย เอกสาร
ท้ายคำร้อง หมายเลข ๑
ข้อ ๒ ในการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย
ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ และระเบียบคณะกรรมการ
การเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๓ โดยในการดำเนินกิจกรรมพรรคการเมืองใดๆ โดยเฉพาะเสนอ
รายชื่อให้บุคคลใดดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและที่ข้อบังคับพรรคได้กำหนดไว้ต้องใช้มติคณะกรรมการบริหาร
พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๒๑ แม้จะการออกเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๑๔ ก็ตาม แต่ต้อง
ไม่กระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ ทั้งนี้ฯลฯ
นอกจากนี้ นายมานพ คำหวาน อดีตผู้สมัคร สส.เขต5 นครปฐม พรรคเพื่อไทย ยังร้อง "อัยการสูงสุด" ตรวจสอบ "อนุทิน-เท้ง" ด้วย
เรื่อง ขอให้อัยการสูงสุดส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้หยุดการกระทำการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ ล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๙
กราบเรียน อัยการสูงสุด
สิ่งที่ส่งมาด้วย (๑) ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือกบุคคลไปลง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๘
ข้าพเจ้า นายมานพ คำหวาน อดีตผู้สมัคร สส.เขต5 นครปฐม พรรคเพื่อไทย ได้พบเห็นการกระทำของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย
กรณี การเลือกบุคคล ไปลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๘ อันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ
ในการในล้มล้างการปกครอง
ข้อ ๑ โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา
๔๙ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๕๐ (๑) ในการพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญและการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผู้ร้องในฐานะประชาชนพบเห็นการกระทำ กรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ผู้ถูกร้องที่ ๑ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ถูกร้องที่ ๒ พรรคประชาชน ผู้ถูกร้องที่ ๓ และพรรคภูมิใจไทย ผู้ถูกร้อง
ที่ ๔ ได้ร่วมกันกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นการใช้สิทธิหรือ
เสรีภาพในการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีผู้ถูกร้อง
ทั้งสี่ร่วมกันกระทำตามทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยกรณีการเลือก
บุคคลไปลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๘ อันเป็นการกระทำนับตั้งแต่วันที่
๓ กันยายน ๒๕๖๘ เป็นต้นมา อันมีผลสืบเนื่อง ต่อเนื่องและยังไม่ยุติลง แม้บันทึกข้อตกลงจะได้ลงนาม
ในวันดังกล่าวและเนื้อหา สภาพบังคับ อันเป็นเงื่อนไขบังคับก่อนและเงื่อนไขบังคับมีผลต่อเนื่องในการจัดทำ
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่และยุบสภาภายใน ๔ เดือนนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้แถลงนโนบายต่อสภา
ซึ่งสภาพเนื้อหาบันทึกข้อตกลงมีสภาพร้ายแรง โดยมีข้อเท็จจริงไม่ไกลเกินกว่าเหตุและยังไม่สิ้นลง รายละเอียด
ปรากฏตามสำเนาข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือกบุคคลไปลงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๘ เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ๑
ข้อ ๒ ข้อกฎหมายประกอบการพิจารณา ดังนี้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
มาตรา ๒ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุขฯลฯ
