
ฝ่ามนต์เสื่อม ยงยุทธ ติยะไพรัช แดงบ้านใหญ่ พิชิตเด็กปั้นค่ายสีส้ม พ่ายราบคาบ เลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย ไม่พลิก
จับตาแดงบ้านใหญ่ โมเดล พท.สู้ศึกเลือกตั้ง ยามที่แบรนด์นายใหญ่-นายน้อยไม่ปัง เหมือนในอดีต
ผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 ไม่หักปากกาเซียน เมื่อ สง่า พรมเมือง พรรคเพื่อไทย ได้ 45,615 คะแนน ชนะสุทัศน์ ยาละ พรรคประชาชน ที่ได้ 19,862 คะแนน
ยงยุทธ ปั้น สจ.สง่า เป็น สส.ป้ายแดง
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง แสดงความเห็นผ่านเพจ Pavin Chachavalpongpun ว่า “เลือกตั้งซ่อมเขต 7 เชียงราย เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ ส้มแพ้ย่อยยับ นี่เป็นเพราะคุณทักษิณติดคุก คนเชียงรายทนเห็นคนถูกรังแกไม่ได้ค่ะ”
มองในมุมด้อมแดง คงเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ของปวิน แต่หากลงลึกในพื้นที่เขต 7 ยังมีปัจจัยและตัวแปรอีกมากที่ทำให้เพื่อไทยได้รับชัยชนะในครั้งนี้
กูรูการเมืองท้องถิ่นประเมินว่า ชัยชนะของ สง่า พรมเมือง มาจากปัจจัยบ้านใหญ่ตระกูลติยะไพรัช 50% ความนิยมในตัวผู้สมัคร 20% และแบรนด์ทักษิณ 30%
ชัยชนะบ้านใหญ่แม่จัน
ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จัก เขตเลือกตั้งที่ 7 จ.เชียงราย ประกอบด้วย อ.เชียงแสน อ.ดอยหลวง อ.เวียงแก่น อ.เชียงของ (ยกเว้น ต.บุญเรือง) และ อ.แม่จัน (เฉพาะ ต.จันจว้า และ ต.จันจว้าใต้)
คอการเมืองเจียงฮายทราบว่า อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.แม่จัน เป็นฐานที่มั่นการเมืองของ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ
ปี 2554 วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลงสมัคร สส.เชียงราย เขต อ.พาน จึงทำให้พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ต้องย้ายจากบ้านเกิดมาลงสมัคร สส.เขต 7 ชายแดนไทย-ลาว โดยการสนับสนุนของยงยุทธ
ผลการเลือกตั้งปี 2566 อันดับ 1 พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เพื่อไทย ได้ 31,588 คะแนน อันดับ 2 ประหยัด เสียงดัง ก้าวไกล 25,889 คะแนน และอันดับ 3 มิรันตี บุญแก้ว ภูมิใจไทย 18,153 คะแนน
เมื่อพิเชษฐ์ หลุดเก้าอี้ สส. บ้านใหญ่ตระกูล “ติยะไพรัช” จึงกระโดดเข้ามาจัดการวางตัวผู้สมัคร สส.ทันที โดยวางตัว สง่า พรมเมือง อดีต ส.อบจ.เชียงราย เขต อ.เชียงแสน ลงสนามแทนพิเชษฐ์
ดังนั้น ปัจจัยแห่งชัยชนะของสง่า พรมเมือง และพรรคเพื่อไทย จึงประกอบด้วย
ปัจจัยแรก ตระกูลติยะไพรัช หรือบ้านใหญ่แม่จัน ที่ทุ่มสรรพกำลังช่วยหาเสียงทั้งด้านกว้าง และด้านลึก
ปัจจัยที่สอง แบรนด์ทักษิณในหมู่คนเมืองเหนือ ยังคงมีมนต์ขลังอยู่บ้าง กระแสเริ่มเจือจางลงไปเยอะ ดูได้จากผลการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ที่นายใหญ่ไปหาเสียงด้วยตัวเอง แต่ก็พ่าย อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ บ้านใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน
ปัจจัยที่สาม สง่า พรมเมือง นักธุรกิจชื่อดังของ อ.เชียงแสน ก่อนจะผันตัวมาเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยอยู่ภายใต้ร่มเงาตระกูลติยะไพรัช
ด้วยความสดใหม่ของ สง่า จึงทำให้ยงยุทธ มอบให้ อิทธิพล ศรีสองสม เลขานุการส่วนตัวพา สจ.สง่า เข้าพบทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2568 เพื่อยืนยันเป็นตัวจริงในสนาม
ความผิดพลาดของส้ม
ด้านผู้ปราชัยอย่างพรรคประชาชน ก็มีจุดอ่อนอยู่ที่การเลือกตัวผู้สมัคร สส. สำหรับสนามเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย
ตอนแรก ประหยัด เสียงดัง ทนายความที่เคยลงในนามพรรคก้าวไกล ได้มา 2 หมื่นกว่าคะแนน เสนอตัวว่าจะลงสนามอีก แต่กรรมการบริหารพรรคประชาชน กลับเลือก “แม้ว” สุทัศน์ ยาละ นักธุรกิจหนุ่มชาว อ.เวียงแก่น เป็นผู้สมัครในรอบนี้แทน
ก่อนหน้านั้น “สจ.เอ เชียงของ” หรือ วสุพล จตุรคเชนทร์เดชา รองประธานสภา อบจ.เชียงราย ก็ขอเสนอตัวลงสมัคร สส.เชียงราย เช่นกัน
“สจ.เอ เชียงของ” เป็นนักการเมืองบ้านใหญ่ ที่ลงสมัคร สจ.รอบล่าสุดในเสื้อสีส้ม โดยส่วนตัว สจ.เอ มีความสนิทสนมกับ อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย สายสีน้ำเงิน
ปรากฏว่า แกนนำพรรคส้มไม่เลือก สจ.เอ ลงสนาม จึงทำให้บ้านใหญ่สีน้ำเงินปล่อยคะแนนไปช่วย สง่า พรมเมือง ผู้สมัครค่ายสีแดง
แม้สง่า จะลงสมัคร สจ.ในนามพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเป็น สจ.แล้วก็ทำงานใกล้ชิดกับตระกูลวันไชยธนวงศ์
ส่วน มิรันตี บุญแก้ว ผู้สมัคร สส.เชียงราย เขต 7 ในนามพรรคภูมิใจไทย ได้ลาออกไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องรอดูสมัยหน้า ค่ายสีน้ำเงินจะดัน สจ.เอ ลงสนามใหญ่อีกหรือไม่