
16 ธันวาคม 2568 ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าววิจารณ์การทำงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ภายหลังออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าว โดยอ้างว่าการตรวจสอบรัฐบาลยังไม่เกิดขึ้นว่า เป็นคำพูดที่สวนทางกับความจริง ที่ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ แต่รัฐบาลกลับเลือกหลอกตัวเองและหลอกสังคม
ดร.ลิณธิภรณ์ ระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้ มีปัญหาซ้อนทับทั้งเชิงโครงสร้างและการบริหาร ตั้งแต่การบิดเบือนหลักประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา วิกฤตชายแดนไทย–กัมพูชาที่ทวีความตึงเครียด ไปจนถึงความล้มเหลวในการรับมือ และเยียวยาวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลหนักแน่นที่สภาผู้แทนราษฎร ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การยุบสภาในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่การคืนอำนาจให้ประชาชนตามคำโฆษณาทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี แต่คือการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” เพื่อหลีกหนีการตรวจสอบ เพราะทันทีที่มีการยุบสภา กลไกตรวจสอบของรัฐสภาจะถูกทำให้เป็นอัมพาต ทั้งที่สังคมยังตั้งคำถามอย่างกว้างขวางว่า ประเทศไทยพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่จริงหรือไม่ ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงที่ยังไม่คลี่คลาย
ดร.ลิณธิภรณ์ ตั้งคำถามว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงกล้าใช้ข้ออ้างว่า การยุบสภาเป็นผลมาจากการที่พรรคประชาชน ส่งสัญญาณไม่สนับสนุนรัฐบาลต่อไป ทั้งที่ความพิสดารได้เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกเดินหน้า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และการล่อลวงด้วยข้อตกลงทางการเมืองหรือ MOA ที่เป็นเพียงสัญญาจอมปลอม ซึ่งถูกวางเกมมาตั้งแต่ต้น
“ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และเป็นการทำลายระบบรัฐสภาอย่างสิ้นเชิง” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว
ดร.ลิณธิภรณ์ ย้ำว่า ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใด ที่ยอมให้พรรคฝ่ายค้าน เป็นผู้ชี้ชะตาอำนาจบริหารประเทศ แต่กรณีนี้สะท้อนชัด ถึงความต้องการส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการดำรงตำแหน่งต่อไปโดยไม่สนใจผลกระทบต่อประชาชน จนยอมฉีกทุกกติกา และทำลายทุกหลักการของระบอบประชาธิปไตย
“นี่คือบทพิสูจน์ของการเมืองที่มุ่งแสวงหาอำนาจด้วยกลลวง ไม่สามารถค้ำยันรัฐบาลอนุทินให้เดินต่อไปได้ เครื่องมือเดียวที่เหลืออยู่คือ การยุบสภาเพื่อหนีความผิดพลาด หากจะอ้างว่าทำตามข้อตกลงแล้วก็เชิญ แต่เกมการเมืองครั้งนี้ รวมถึงกรณีคดีฮั้ว สว. ที่เงียบหายไป ประชาชนตาสว่างแล้ว” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว