
จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ใจกลางห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยใน EEC ย้ำบทบาทโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมไทย ตั้งเป้ายกระดับไทย เป็นฮับทดสอบมาตรฐานยานยนต์ “อันดับหนึ่งของอาเซียน” และฐานผลิตรถไฟฟ้าระดับโลก พร้อมเร่งทำให้ศูนย์เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการเพื่อใช้บริการทดสอบและรับรองมาตรฐานครบวงจรในประเทศ
ทั้งนี้ ศูนย์ ATTRIC ตั้งอยู่ที่อำเภอสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ในเขต EEC ครอบคลุมพื้นที่ราว 1.98 ล้าน ตร.ม. บริหารโดยสถาบันยานยนต์ (TAI) ออกแบบให้รองรับการทดสอบตามข้อกำหนด UN Regulations ครบชุด ทั้งระบบเบรก เข็มขัดนิรภัย ที่นั่ง ยางล้อ ตลอดจนแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยแผนงานเฟสหลักจะก่อสร้าง “ไฮสปีดเซอร์กิต” และอาคารทดสอบการชนให้เสร็จภายในปี 2569
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยความสำคัญของศูนย์ ATTRIC ว่า ศูนย์ ATTRIC จะลดต้นทุน–เวลาในการฮอโมโลเกชันของค่ายรถ และผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย รองรับมาตรฐานสากลในประเทศ ไม่ต้องพึ่งศูนย์ต่างประเทศ และช่วยเร่งวงจรนวัตกรรม EV ตั้งแต่แบตเตอรี่ถึงตัวรถ (ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่เปิดเดินเครื่องแล้วตั้งแต่ มี.ค. 2565)
• งบลงทุนรวมโครงการราว 3,705.7 ล้านบาท; เฟสไฮสปีดเซอร์กิตยาว 4.4 กม. (ถูกวางให้เป็นหนึ่งในแทร็กที่ใหญ่สุดในเอเชีย) เป้าหมายเปิดใช้เต็มรูปแบบปี 2569.
• ขอบเขตการทดสอบครอบคลุม UN R13/13H, R14, R16, R17, R25, R79, R117 และ UN R100/R136 สำหรับแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังระบุว่า เพื่อให้ศูนย์ “มีชีวิต” ดึงคนรุ่นใหม่–ทุนเอกชน และโตกว่ารายได้จากงานทดสอบเพียว ๆ แนวทางที่สามารถเดินหน้าได้ภายใต้กรอบความปลอดภัยและกฎคุมเข้ม มีดังนี้
• Festival of Speed–สไตล์ไทย: เปิดบางโซนจัด “โชว์รัน/ไทม์แอตแทค” รถคลาสสิก ซูเปอร์คาร์ และ EV ไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ คล้าย Goodwood—โฟกัส “เดโมเทคโนโลยี” เน้นถ่ายทอดสด–คอนเทนต์ดิจิทัล
• EV Performance Shootout: แข่ง 0–100, 400 เมตร, เบรก/แฮนด์ลิงบน Dynamic Platform & Skid Pad พร้อมเวิร์กช็อปแบตเตอรี่และความปลอดภัยไฟฟ้ากับทีมวิศวกรศูนย์
• Corporate Track Day & OEM Ride & Drive: เปิดเชิงพาณิชย์ให้ค่ายรถ/ยาง/พลังงานใช้พื้นที่ทดสอบปิด เพื่อเปิดตัวรุ่นใหม่ ทดสอบยาง UN R117 บนแทร็กเปียกแบบดูงาน (B2B + Media Day)
• Motorsport Sandbox (เอกชนจัด–รัฐกำกับ): สนามไทม์แอตแทค/จิมคาน่า/ออโต้ครอสบนพื้นที่ควบคุม (ไม่ใช่สตรีทเรซ) เชื่อมกับอีเวนต์เกมมิง–e-Motorsport และท่องเที่ยว EEC
• Talent & Tech Expo: โซนสตาร์ทอัพชิ้นส่วน–ซอฟต์แวร์ยานยนต์ ห้องแล็บทดลองมาตรฐาน เปิดเยี่ยมชม “หลังบ้าน” ให้เด็กสายวิศวะ–VDO Creator เข้าถึง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังเน้นความสำคัญหลังจากนี้ว่า จะต้องติดตาม
• ความคืบหน้า “ไฮสปีดเซอร์กิต 4.4 กม.” กับอาคารทดสอบการชนตามกรอบเวลา 2569, และการออกแบบกระบวนงานเปิดใช้พื้นที่กับเอกชนแบบ multi-use อย่างเป็นระบบ.
• การดึงงบ–สปอนเซอร์จากค่ายรถ/ยาง/พลังงาน เพื่อจัดอีเวนต์รายได้สูงที่เสริมภาพลักษณ์ “Thailand Mobility Hub” ไม่ใช่แค่ศูนย์ทดสอบ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังยืนยันว่า หากขับเคลื่อนครบสูตร ATTRIC จะไม่เพียงเป็นที่ที่สินค้าผ่านมาตรฐานสากลในประเทศ แต่ยังกลายเป็น “เวทีโชว์ของจริง” ให้เทคโนโลยีรถไทย–ต่างชาติแข่งกันอย่างถูกกติกา ดันไทยขึ้นอันดับหนึ่งในภูมิภาคทั้งด้านมาตรฐานและวัฒนธรรมความเร็วสมัยใหม่