svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้มผู้สมัครเรียนต้องเปิดข้อมูล "คู่สัญญากับรัฐ" สกัด "วิ่งงาน"

ประเทศไทยเป็นประเทศ “อภิมหาคอนเนคชั่น - เจ้าพ่อระบบอุปถัมภ์ - เส้นใหญ่ได้เปรียบ” ทำให้การเปิดอบรมหลักสูตรต่างๆ ของสถาบันต่างๆ ซึ่งมีมากมายแทบทุกองค์กรในปัจจุบัน กลายเป็นช่องทางของ “บางคน หรือหลายคน” ในการเข้าไปหาคอนเนคชั่น หาพวก วิ่งงาน  ไม่ได้เข้าไปศึกษาหาความรู้ เพิ่มพูนศักยภาพของตัวเอง เพื่อกลับไปพัฒนาหน่วยงาน หรือ “อัพสกิล - รีสกิล” แต่อย่างใด 

16 พฤศจิกายน 2568 ล่าสุด มีองค์กรนำร่อง “ผ่าตัด - ปฏิรูป” เรื่องนี้แล้ว ก็คือ สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเปิดหลักสูตรอบรมอยู่ราวๆ 28 หลักสูตร ซึ่งถือว่าเยอะ และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายหลักสูตรที่ถูกวิจารณ์เหมือนกันว่า นักศึกษาบางส่วนเข้าไปเพื่อหาคอนเนคชั่น หาผลประโยชน์ หางานกับหน่วยราชการ มากกว่าที่จะหาความรู้ หรือสร้างเครือข่ายพัฒนาหน่วยงาน พัฒนาประเทศ 

รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “เนชั่นทีวี” ระหว่างเดินทางเยือนฮังการีอย่างเป็นทางการ ร่วมกับประธานรัฐสภาไทย ในฐานะแขกของรัฐสภาฮังการี

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป) รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า

 

 

 

 

โดยประกาศเจตนารมณ์ทบทวนการดูงานต่างประเทศแบบ “ชะโงกทัวร์” ของทุกหลักสูตร / แล้วหันมาเน้น “การอบรมระยะสั้น 2-3 วัน” แทน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยแต่ละหลักสูตรต้องทำแผนก่อนเปิดหลักสูตร ว่าจะเข้าอบรมกับสถาบันไหน ประเทศอะไร ซึ่งต้องมีความร่วมมือระหว่างกัน และต้องขึ้นทะเบียนของสถาบัน ไม่ใช่ไปดูงานที่ไหนก็ได้ เหมือนที่ผ่านมา 

 

 

สมัครเรียนต้องเปิดข้อมูล “คู่สัญญากับรัฐ” สกัด “วิ่งงาน”

รศ.ดร.อิสระ กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การดูงาน คือ การที่สถาบันต้องตอบคำถามให้ได้ว่า หลักสูตรแต่ละหลักสูตรของสถาบันมีไว้ทำไม เพราะฉะนั้นจะต้องจัดหลักสูตรให้ตอบสนองกับเป้าหมาย ซึ่งหากตอบไม่ได้ ก็ต้องปิดหลักสูตรนั้นไป ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งตรวจสอบบางหลักสูตร พบว่าไม่ตรงกับเป้าหมายของสถาบัน ตอบโจทย์ได้ไม่ชัด จึงได้สั่งปิดไป แม้อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครอยู่ เพราะคิดว่าไม่เป็นประโยชน์กับงบประมาณแผ่นดิน 


นอกจากนั้น ตนได้ออกข้อสั่งการของเลขาธิการสถาบัน เพื่อเข้มงวดกับผู้ที่จะเข้ามาศึกษาในหลักสูตร ต่อไปนี้ทุกคนที่สมัครเรียนของหลักสูตรสถาบันพระปกเกล้า จะต้องกรอกใบที่เรียกว่า Self-Declaration หรือว่าใบรับรองตัวเองว่า มีสัญญากับหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งสถาบันพระปกเกล้าหรือไม่ ถ้ามี - มีกี่สัญญา - อะไรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้คนเข้ามาเรียน แล้วเข้ามาหางาน

 


เปิดลิสต์ MOU สถาบันวิชาการระดับโลก 

ไม่ใช่แค่พูดเปล่า แต่ รศ.ดร.อิสระ เดินหน้าทำให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว โดยได้ทำความร่วมมือกับสถาบันวิชาการชั้นนำของโลก เพื่อเป็นเครือข่ายของสถาบันพระปกเกล้า ที่เรียกว่า “SUS-NET” (ซัส - เน็ท)  หรือว่า Sustainable Innovation Network หมายถึงเครือข่ายด้านการใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีสถาบันวิชาการชั้นนำระดับโลกของประเทศต่างๆ เข้ามาร่วม เช่น 

 

 - ควีน แมร์รี่ ของสหราชอาณาจักร 

 - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง หรือ NTU ของสิงคโปร์ 

 - สถาบันบริหารรัฐกิจหลายแห่งในเกาหลี 

 - สถาบันการปกครองแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นสถาบันหลักของหน่วยงานที่อบรมผู้บริหารของจีน อดีตประธานาธิบดีทุกคน รวมทั้ง ท่าน สี จิ้นผิง ก็เคยเป็นผู้บริหารของสถาบันแห่งนี้ 

 

 

เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เผยถึงที่มา(ฉบับเต็ม)


      
รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และรักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยการเมืองการปกครอง เผยผลการเดินทางเยือนกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภา 

โดยมี ‘วันนอร์’ ประธานสภาสถาบันฯ นำทีม ได้รับการต้อนรับระดับสูงสุดจากผู้นำฮังการี ลั่นเดินหน้า ‘ปฏิรูป’ สถาบันพระปกเกล้าครั้งใหญ่ เลิกการดูงานต่างประเทศแบบ ‘ชะโงกทัวร์’ หันเน้น ‘อบรมระยะสั้น 2-3 วัน’ เพื่อเข้าสู่สมาชิกภาพ OECD พร้อมสั่งยกเครื่องหลักสูตรใหม่ให้มี ‘แกนทแยง’ สอดรับยุคสมัย และสั่ง ‘ปิดหลักสูตร’ ที่ไร้ประโยชน์กลางคันทันที ที่สำคัญ! เตรียมออกข้อสั่งการเข้มงวดให้ผู้สมัครทุกคนต้องกรอก ‘Self-Declaration’ แจงสัญญาภาครัฐ ป้องกันคนเข้ามา ‘หางาน’ ชี้ ‘เกียรติยศ’ ของสถาบันเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

 

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

 

รื้อหลักสูตรพระปกเกล้า เลิกบินหรูดูงาน "ชะโงกทัวร์" เข้ม สกัด "วิ่งงาน" (มีคลิป)

 

 


     
รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางเยือนกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภา โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้นำคณะ พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันฯ ว่า คณะได้รับเกียรติในการต้อนรับอย่างสมเกียรติในระดับสูงสุดจาก ท่านประธานรัฐสภาของฮังการี ขณะที่ฝ่ายบริหาร ได้เข้าพบ ท่านรักษาการนายกรัฐมนตรี รวมถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบริหารรัฐกิจและการจัดการท้องถิ่น และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
    
นอกจากนี้ ยังได้เข้าพบกับ ท่านว่าที่เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย (Ambassador Designate) ซึ่งจะเดินทางไปประเทศไทยในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ เพื่อถวายอักษรสาส์นตราตั้ง
    
ในส่วนของความร่วมมือทางวิชาการ สถาบันพระปกเกล้าได้เข้าพบและหารือร่วมกับ Think Tank ของฮังการี 3 แห่ง ได้แก่ สถาบัน MCC, สถาบัน Danub และ สถาบัน Christian Democratic Institute (CDI) ซึ่งทั้งหมดมีค่านิยมร่วมกันในการพัฒนาประชาธิปไตย
     
“ความร่วมมือในการมาพบกันของทั้งสถาบันพระปกเกล้ากับ 3 สถาบันนี้ จะนำไปสู่เป้าหมายปลายทางที่มุ่งมั่นเอาไว้ นั่นก็คือการที่จะให้สถาบันพระปกเกล้าเป็น คลังสมองของประเทศ และเป็น คลังสมองของภูมิภาค” รศ.ดร.อิสระ เน้นย้ำ พร้อมระบุว่า ได้มีการลงนาม MOU ร่วมกับสถาบัน Christian Democratic Institute แล้ว

รศ.ดร.อิสระ กล่าวว่า  เราได้มีความตกลงกันว่าจะทำใน 3 ด้าน นะครับ อันที่ 1 ก็คือเรื่องของการ แลกเปลี่ยนนักวิจัย ระหว่างกัน เราจะให้นักวิจัยจากที่ฮังการีรวมทั้งจากยุโรปในภูมิภาคอื่น ๆ ที่อยู่ที่ฮังการี ได้เดินทางไปเพื่อจะไปทำ การศึกษา วิจัยที่สถาบัน ในเวลาเดียวกันเราก็จะส่งคนมาศึกษาวิจัยที่นี้
     
สิ่งที่ เราจะเรียนรู้ร่วมกันมีหลายมิติ ทั้ง รัฐธรรมนูญ ก็เป็นหนึ่งในนั้น อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นความน่าตื่นเต้นของประเทศฮังการีคือ ฮังการีเป็นประเทศที่ในอดีตมีสมาชิก รัฐสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 386 คน แต่ด้วยเหตุว่าประชาชน แล้วก็ผู้แทนของเขา พิจารณาแล้วเห็นว่า งบประมาณที่ใช้รวมถึงความจำเป็น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีสมาชิก รัฐสภา เยอะขนาดนั้น เป็นประเทศที่มีความน่าสนใจตรงที่ว่า สมาชิก รัฐสภา ยอมที่จะลด โอกาส หรือว่าอำนาจตัวเองจากจำนวน 386 เหลือ 199


    
"แปลว่าการตัดสินใจนั้นของคน 386 คนอยู่บนความเสี่ยงว่า เกือบครึ่งจะไม่ได้กลับเข้ามามีอำนาจอีก เป็นการตัดสินใจที่ผมคิดว่า เด็ดเดี่ยว แล้วก็กล้าหาญ ถ้าเป็นภาษา วัยรุ่นก็คงจะเรียกว่าเป็นการตัดสินใจที่ โหดมาก แต่ผมคิดว่าอันนี้ เป็นสิ่งที่ เราควรจะเรียนรู้ ว่าทำอย่างไร ไทยถึงจะก้าวพ้นจากวงเวียนของอำนาจ ทำอย่างไร ประเทศถึงจะไม่ใช่สมบัติของใครคนใดคนหนึ่ง อันนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนที่ถ้าเราสามารถเรียนรู้แล้วนำไปปฏิบัติได้ จะเป็นทางออกของประเทศไทยที่แท้จริง"


  
รศ.ดร.อิสระ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เราสร้างเป็นเครือข่าย โดยมีพระปกเกล้าเป็น แกนนำ ชื่อว่า SUSNET หรือว่า Sustainable Innovation Network หรือว่าเป็นเครือข่ายด้านการใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตอนนี้ เราก็เชิญชวนประเทศต่าง ๆ จากหลาย ๆ ประเทศมา ร่วมกัน ที่จะเป็นเครือข่ายนี้ของพระปกเกล้า ตอนนี้ได้แก่ Queen Mary ที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นของประเทศสหราชอาณาจักร ที่สิงคโปร์ เราร่วมกับ NTU หรือว่ามหาวิทยาลัยนันยาง Technological University ก็คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ซึ่งก็เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของโลก ในส่วนของฝรั่งเศส เราก็มีหน่วยงานความร่วมมือ ในส่วนของเกาหลี เราก็ได้ทำข้อตกลงร่วมกันกับ สถาบันบริหารรัฐกิจหลายแห่งในเกาหลี ซึ่งท่านประธานรัฐสภาก็เป็นผู้นำคณะไปเมื่อปีที่แล้ว ของจีนเอง เราทำข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันที่เรียกว่า สถาบันการปกครองแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นสถาบันหลักของหน่วยงานที่อบรมผู้บริหารของจีน อดีตประธานาธิบดีทุกคน แทบทุกคน เช่น สี จิ้นผิง ก็เคยเป็นผู้บริหารของสถาบันการปกครองแห่งชาติแห่งนี้ ซึ่งเราได้ลงนามข้อตกลงไปเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้เราได้เริ่มที่จะแลกเปลี่ยนนักศึกษาของสถาบัน จากหลักสูตร ปปร. ของสถาบัน 30 คน เดินทางไป เพิ่งจะกลับมา ที่จะไปไปอบรมที่สถาบันการปกครองแห่งชาติจีนที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งไปในฐานะแขกของรัฐบาลจีน รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบินไปจนถึงการกินอยู่ การอบรมที่นั่นทั้งหมด จึงถือว่าเป็นเป็นเกียรติกับประเทศไทยและสถาบันพระปกเกล้าอย่างสูง

 

ตอนนี้ให้ยกเครื่อง จะเรียกว่ายกเครื่องก็ได้ หลักสูตรใหม่ทั้งหมด ในหลาย ๆ มิติ อันนึงที่เมื่อกี้ ได้เรียนไป คือเรื่องของการดูงาน แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การดูงานคือ การที่ให้สถาบันต้องตอบคำถามให้ได้ว่า หลักสูตรแต่ละหลักสูตรของสถาบันมีไว้ทำไม เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ทุกหลักสูตรของสถาบันจะจัดอยู่ภายใต้ 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ผมเรียกว่าเป็น กลุ่มแกนนอน คือทุกวิชา ทุกหลักสูตรของสถาบันจะต้องอบรมในวิชาที่เกี่ยวกับ ประชาธิปไตย การเมืองการปกครอง แล้วก็ รัฐธรรมนูญ ต่าง ๆ ธรรมาภิบาล นี่คือเป็นหลักสูตรแกนนอนที่ทุกหลักสูตรจะต้องอบรมเหมือนกันที่พระปกเกล้า หลักสูตร แกนตั้ง กลุ่มที่ 2 คือเป็นหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น ถ้าเป็นหลักสูตรที่เราทำร่วมกับ กสทช. ก็จะเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับ การสื่อสาร โทรคมนาคม หรือดิจิทัล


    
"แต่สิ่งที่สำคัญที่จะต้องมีคือ หลักสูตรแกนทแยง คือทำยังไงที่จะให้คน ที่เรียน หาให้เจอว่าความเชื่อมโยงระหว่างดิจิทัลกับประชาธิปไตย หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า เอ่อ Digital Democracy คืออะไร นี่คือสิ่งที่สถาบันจะต้องออกแบบหลักสูตรให้ผู้เรียนหาเส้นแกนทแยงนี้ให้เจอ และเมื่อหาเจอแล้ว ถึงจะทำให้หลักสูตรนี้ ถึงจะตอบคำถามว่าหลักสูตรนี้ควรจะมีหรือไม่มี ถ้าหลักสูตรไหนที่ไม่สามารถออกแบบ ไม่สามารถหาตัวเองให้เจอแบบนี้ ผมได้มอบนโยบายกับผู้บริหารทุกคนไปว่าให้ปิดหลักสูตรนั้น อย่างเช่นตัวอย่าง บางหลักสูตร เรามีหลักสูตรเยอะ ซึ่งผมคิดว่าควรที่จะต้องนำมาพิจารณาแล้วก็สะสาง  ให้เหลือแต่หลักสูตรที่สำคัญและจำเป็นจริง ๆ มีหลักสูตรนึงที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ตอนนี้ พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ ได้สอดคล้องไปในแนวทางที่ผมได้พูดไปเมื่อสักครู่นี้ กำลังรับสมัครอยู่กลางคัน ก็สั่งให้ปิด เพราะว่าคิดว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อ งบประมาณแผ่นดิน ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่เป็นประโยชน์ต่อสถาบัน กำลังรับสมัครอยู่ ก็สั่งให้ ปิดหลักสูตร 


      
"แล้วก็ประการสุดท้ายกำลังออก ข้อสั่งการของเลขาธิการ ในเรื่องที่จะ เข้มงวดกับผู้ที่จะเข้ามาศึกษาในหลักสูตร ต่อไปนี้ทุกคนที่สมัครเรียนของหลักสูตรพระปกเกล้า จะต้องกรอกใบที่เรียกว่า Self-Declaration หรือว่าใบรับรองตัวเองว่า มีสัญญา กับหน่วยงานของรัฐรวมทั้งสถาบันพระปกเกล้ากี่สัญญาบ้าง และอยู่ในขั้นตอนไหน เพื่อที่จะป้องกันในระดับหนึ่งไม่ให้ คนที่เรียนเข้ามาหางาน คนที่มีงานอยู่แล้วต้องได้เรียน สิ่งนี้ คือจะเป็นองค์ประกอบในการพิจารณา คงจะไม่ได้กีดกันให้คนเข้าออกไป ไม่ให้คนที่มีสัญญากับภาครัฐเข้ามาได้เรียน แต่ อย่างน้อยให้เราได้รู้ถึง ความเสี่ยง ของคนที่จะเข้ามา วัตถุประสงค์ของการเข้ามาเป็นนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า


"ต่อไปนี้ ชื่อสถาบันพระปกเกล้า รวมทั้งความเป็นนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า จะต้องธำรงไว้ซึ่งเกียรติ แล้วก็ศักดิ์ศรี แล้วก็เกียรติยศของแห่งพระบรมราชาภิไธยของ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ที่ท่านได้ทรง  เป็นเสมือนกับ สิ่งที่เตือนใจของพวกเราว่า การพัฒนาประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสถาบันต้องเป็นศูนย์รวมของการลดความเหลื่อมล้ำที่แท้จริง"
 

 

ดูคลิป