svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ลี ยงพัด”เป็นใคร เปิดประวัติ-ธุรกิจ ก่อนถูกแบล็คลิสต์สแกมเมอร์

“ลี ยงพัด” เป็นใคร? เปิดประวัติ-ธุรกิจ ก่อนถูกอเมริกาขึ้นแบล็คลิสต์สแกมเมอร์ และตกเป็นผู้ต้องหาตัวการเครือข่ายสแกมเมอร์ในประเทศไทย

ปฏิบัติการของตำรวจไซเบอร์ หรือ กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) ร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ปูพรมปิดล้อมตรวจค้น 36 จุด ในพื้นที่ กทม.และ จ.ตราด เพื่ออายัดทรัพย์สินของเครือข่ายนายนายพัด สุภาภา หรือ นายลี ยงพัด อายุ 67 ปี สมาชิกวุฒิสภาและนักธุรกิจชาวกัมพูชา เกาะกง เชื้อสายจีนและไทย และเป็นเจ้าของบริษัทแอลวายพีกรุป (LYP Group) จัดว่าไม่ธรรมดา

 

เป็นการบุกตรวจค้น หลังตำรวจ สอท.สืบสวนพบว่า นายลียงพัด หรือเสี่ยพัด และเครือข่าย เป็นหนึ่งในตัวการใหญ่ในกัมพูชา ที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ โดยมีการแบ่งงานกันทำในลักษณะของการรับผลประโยชน์และการฟอกเงิน

ลี ยงพัด

 

โดยตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับเครือข่ายรวม 5 ราย ประกอบด้วย นายลียงพัด หรือพัด สุภาภา อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ 6503/2568 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 นายโชคชัย สุภาภา อายุ 37 ปี บุคคลใกล้ชิดกับนายพัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ 6540/2568 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 รวมถึงออกหมายจับลูกสมุนชาวจีน อีก 3 ราย ในความผิดฐาน “สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ให้มีการสมคบกัน และร่วมกันกันฟอกเงิน“

 

ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเอกสาร ทรัพย์สินเป็นที่ดิน และเงินสดจำนวนมาก อาทิ ที่ดินใน ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด มูลค่า 5 ล้านบาท และเงินสดในบัญชี กว่า 88.2 ล้านบาท

 

“ลี ยงพัด”เป็นใคร เปิดประวัติ-ธุรกิจ ก่อนถูกแบล็คลิสต์สแกมเมอร์

ประวัติ ลียงพัด เป็นใคร ทำธุรกิจอะไร เข้าไปโยงสแกมเมอร์ได้อย่างไร?

 

ลียงพัด ชื่อกัมพูชา หรือ พัด สุภาภา ชื่อไทย เกิดที่ อ.เสาธง จ.เกาะกง กัมพูชา เขามีบัตรประชาชนของประเทศไทยแต่เป็นชาวกัมพูชา ครอบครัวไม่ต่างจากไทยเกาะกงจำนวนมากที่หนีภัยสงครามในกัมพูชา เข้ามาอาศัยอยู่ใน จ.ตราด และได้รับสัญชาติไทย โดยใช้นามสกุล “สุภาภา”

 

หลังปี 2536 ลียงพัด หรือที่หลายคนเรียกว่า เสี่ยพัด ได้รับสัมปทานก่อสร้างโรงแรมรีสอร์ต และกาสิโน บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ บริเวณบ้านจามเยี่ยม อ.มณฑเสมา จ.เกาะกง กัมพูชา ที่ติดกับบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

 

รวมทั้งมี บริษัทแอลวายพีกรุ๊ป (L.Y.P. Group) ยังดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นิคมอุตสาหกรรม โครงการเกษตรกรรมขนาดใหญ่ โรงงานน้ำตาล พลังงานไฟฟ้า กาสิโน และการท่องเที่ยว 

 

เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เสี่ยพัดได้ขยายธุรกิจกาสิโนไปหลายจังหวัด เช่น กาสิโนที่ช่องสะงำ จ.พระวิหาร และโอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย 

 

“ลี ยงพัด”เป็นใคร เปิดประวัติ-ธุรกิจ ก่อนถูกแบล็คลิสต์สแกมเมอร์

 

ส่วนสายสัมพันธ์ของ ลียงพัด จัดว่าไม่ธรรมดา เพราะสนิทกับ สมเด็จพิชัยเสนา หรือเตีย บัญ อดีต รมว.กลาโหมกัมพูชา โดย จ.เกาะกง เป็นที่มั่นทางธุรกิจและการเมืองของ เตียบัญ และไม่แปลกถ้าเขาจะสนิทกับ สมเด็จฮุน เซน

 

ต่อมาใน ปี 2567 โรงแรมและรีสอร์ท 4 แห่งคือ O-Smach Resort , Garden City Hotel , Koh Kong Resort , Phnom Penh Hotel ที่เป็นของกลุ่มบริษัท L.Y.P. Group ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาและคอลเซ็นเตอร์ที่บังคับหรือหลอกลวงคนไปทำธุรกิจผิดกฎหมาย 

 

อเมริการะบุว่า คาสิโนและรีสอร์ตของลียงพัด ในหลายจังหวัดถูกแปรสภาพไปเป็นเหมือนสถานที่กักกันสำหรับกักขังเหยื่อที่ถูกล่อลวงมาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

ครั้งนั้น ทางกัมพูชาได้ออกมาตอบโต้อเมริกาอย่างรุนแรง ว่า ได้รับข้อมูลผิดพลาด นายลียงพัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

อย่างไรก็ดี ต่อมาตำรวจ สอท. และ ปปง. ของไทย ตรวจสอบพบร่องรอยของ ลียงพัด เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ รีสอร์ตโอร์เสม็ด กาสิโน ฝั่งกัมพูชาด้วย โดย ปปง. เคยอายัดทรัพย์ของ ลียงพัด ไปแล้ว 70 ล้านบาท

 

กระทั่งวันที่ 24 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย ถอนสัญชาติไทย นายพัด สุภาภา หรือ ลียงพัด โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า ได้รับรายงานข้อมูลจาก ปปง. และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ว่า ลียงพัดเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ฉ้อโกงประชาชน จนถูกสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติแห่งสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตร เนื่องจากมีลักษณะพิเศษในการถูกอายัดทรัพย์สิน เพราะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และหลอกลวงไซเบอร์

 

เห็นว่าพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวนั้นเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดประโยชน์ต่อรัฐ และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อยู่ในข่ายถูกถอนสัญชาติได้ตามมาตรา 19 (2) (3) (4) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 และหากปล่อยไว้เนิ่นช้าออกไปจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประชาชนและสาธารณะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ให้ถอนสัญชาติไทยของ นายพัด สุภาภา หรือ ลียงพัด