"รอง ผบช.ไซเบอร์" ยืนยันไม่ได้เกี่ยวคดีจับกุม "สส.ชนนพัฒฐ์"

พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายถูกกระแสข่าวสแกมเมอร์โจมตีในขณะนี้ว่า ช่วงนี้มีคลิปสัมภาษณ์ของอดีตรอง ผบ.ตร.คนหนึ่ง พูดโยงไปว่าใครต่อใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ถึงขั้นพยายามให้คนเชื่อว่า ตนอยู่ในทีมจับคาสนามบิน ทั้งที่ตอนนั้น ตนยังเป็นผู้การตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทางใต้ ไม่ได้อยู่ที่สนามบิน

 

"อยากชี้แจงว่า สิ่งที่เขาพูดออกสื่อเป็นความเท็จ เพราะความจริงคือ วันนั้นผมอยู่ปฏิบัติหน้าที่ที่ยะลา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับกุมอย่างที่เขากล่าว" พล.ต.ต.ทินกร กล่าว

ส่วนเรื่องหมายจับที่ถูกบิดเบือนนั้น พล.ต.ต.ทินกร กล่าวชี้แจงว่า การขอหมายจับในคดีใหญ่แบบนี้ ไม่ต้องออกหมายเรียกก่อนเสมอไป เพราะถ้ามีหมายเรียก — หลักฐานโดยเฉพาะหลักฐานดิจิทัลจะถูกทำลายได้ เรื่องนี้ศาลฎีกาเขียนไว้ชัดเจนว่า สามารถทำได้ตามกฎหมายและศาลเอง ก็ไม่ได้ระบุแบบที่เขาเล่าในคลิปเลย

 

"ยืนยันผมทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย ลูกน้องเขาเคยฟ้องผมเรื่องนี้แล้ว ศาลก็ยกฟ้องไปเรียบร้อย ปัญหาคือ เขาพูดบิดไปเรื่อยจนกลายเป็นความเท็จที่พูดซ้ำ ผมเชื่อว่า เวลาจะเป็นคนพูดแทนผมเอง รอวันที่ได้พูดต่อหน้าศาล ด้วยพยานหลักฐาน ไม่ใช่คลิปสัมภาษณ์" พล.ต.ต.ทินกร กล่าว

สำหรับเรื่องการปราบปรามจับกุมปัญหาเว็บพนันนั้น พล.ต.ต.ทินกร กล่าวยืนยันว่า ตนก็ปราบเหมือนกัน อย่าพูดเหมือนคนอื่นไม่ทำอะไร เพราะตนเห็นเหมือนพี่น้องประชาชนว่า เพราะเว็ปพนันคือมะเร็งของสังคม ตนลงมือสืบ จับ ขยายผลด้วยตัวเอง ไม่เคยนิ่งดูดาย และสิ่งที่เจอ คือมีตำรวจบางกลุ่มเอื้อประโยชน์ให้เครือข่ายเหล่านี้จริง 

 

“ในการทำงานชีวิตผมไม่มีค่าย ไม่มีนาย ผมแค่ทำตามหลักฐาน ผมทำงานตรงไปตรงมา ได้รับมอบหมายอะไรก็ทำเต็มที่ ไม่อิงอำนาจ ไม่เข้าฝ่ายใคร ผมทำตามพยานหลักฐานทุกบรรทัดของกฎหมาย ดังนั้น ขออย่าบิดเบือน อย่าโยนผิดให้คนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี ผมยังเชื่อในความจริง เพราะสุดท้ายความจริงไม่ต้องพูดเยอะ มันจะพูดด้วยตัวเอง” พล.ต.ต.ทินกร กล่าว