
9 พฤศจิกายน 2568 "สวนดุสิตโพล " มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง" กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81 โดยมองว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้น อาจจะเกิดความขัดแย้งหรือการเมืองซ้ำรอยเดิม ร้อยละ 53.15
ทั้งนี้ อยากเห็นพรรคการเมืองเตรียมทีมงานมืออาชีพ พร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง ร้อยละ 56.39 โดยพรรคการเมืองที่มองว่า มีความพร้อมรับศึกเลือกตั้งมากที่สุด คือ พรรคประชาชน ร้อยละ 18.99 รองลงมาคือ ภูมิใจไทย ร้อยละ 16.87 และเพื่อไทย ร้อยละ 15.25
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ที่กำลังจะมีขึ้น แต่ยังมีเงาความไม่ไว้วางใจต่อการเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยกังวลว่า จะเกิดสถานการณ์ซ้ำรอยเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา จึงอยากเห็นกติกาและระบบเลือกตั้งที่ยุติธรรมและเคารพเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ พรรคการเมืองควรจัดทัพเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง และพิสูจน์ให้ได้ว่าพร้อมจริง ไม่ใช่แค่คำพูด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริมา บุญมาเลิศ อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ ว่า จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีความพร้อมที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในต้นปี 2569 แต่ที่ตัวเลขยังไม่สูงมากนัก เนื่องจากเกรงว่า อาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด ที่ทำให้การเมืองเกิดการพลิกผัน อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 66 ที่พรรคประชาชนได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และมีการสลับขั้วเปลี่ยนข้างกันเกิดขึ้น
โดยอ้างถึงการปลดล็อคทางการเมือง มาในครั้งนี้แม้จะมีการทำ "บันทึกข้อตกลง" (Memorandum of Agreement : MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนว่า จะผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภาภายใน 4 เดือน และ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล จะให้ไทม์ไลน์คร่าว ๆ ไว้ว่าประมาณสิ้นเดือนมกราคม 2569 จะยุบสภาแล้วก็ตาม
แต่พรรคภูมิใจไทย ก็มีเบื้องหลังหลายคดีที่ต้องสะสาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮั้ว สว. และเขากระโดง รวมทั้งท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อนหน้านี้ และการพยายามสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ตามวลีของพรรคคือ "พูดแล้วทำ" พร้อมกับการเดินเกมเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง กับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคกล้าธรรม การดึงเกมยุบสภาและการมีดีลลับทางการเมืองอาจเกิดขึ้น จนทำให้เกิดการพลิกผันทางการเมือง อย่างไม่คาดคิดอีกครั้งก็เป็นได้