
1 พฤศจิกายน 2568 หนึ่ง การเปลี่ยนผู้นำพรรคใหม่ จะช่วยสร้างภาพใหม่ของพรรคได้
ความท้าทาย - แต่ถ้าผู้นำพรรคคนใหม่ ยังสลัดภาพการถูกครอบงำสั่งการจาก “นายใหญ่” และ ตระกูลชินวัตรไม่ได้ ก็อาจเสียของ
สอง การเปลี่ยนทีมบริหารพรรคแบบ “พบกันครึ่งทาง” จะช่วยรักษาพรรคไม่ให้แตกได้
ความท้าทาย - ยังสรุปได้ยากว่าเลือดจะหยุดไหล เพราะมี สส.อีกราวๆ 20-30% ที่รอดูกระแสและทิศทางทางการเมือง
**นายทุนใหญ่ที่เคยมีข่าว “เตรียมเซ้งพรรคต่อจากนายใหญ่” วันนี้หันไปเดินเครื่องพรรคใหม่ เดิมที่เคยเปิดตัว นั่นก็คือพรรคโอกาสใหม่
**ได้รับคำยืนยันจากแกนนำที่ได้รับไฟเขียวให้ทำพื้นที่ อย่างน้อย 2 ภาค คือ ภาคใต้ กับภาคเหนือตอนล่าง ว่ามีการขยับแล้ว เตรียมเปิดตัวใหม่อย่างยิ่งใหญ่ภายในเดือน พ.ย. และตอนนี้ทรัพยากรเริ่มส่งตรงถึงแกนนำแล้ว
สาม ปัญหาภายในพรรคจบจริงหรือไม่
ความท้าทาย - ทีมบริหารพรรค โดยเฉพาะหัวหน้า ไม่ได้การันตีเป็นแคนดิเดตนายกฯ 1 ใน 3 ถือเป็นธรรมชาติของเพื่อไทย ซึ่งก็สะท้อนภาพ “สลัดตระกูลชินกดปุ่ม” ไม่หลุดจริงๆ
**ได้รับข่าวหลายกระแสที่มีน้ำหนักน่าเชื่อว่า มีการพยายามโยนชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” ของเพื่อไทย เป็นคนนอก แต่มีภาพลักษณ์โดดเด่นบางด้าน เพื่อมาดึงคะแนนนิยมของพรรค โดยไม่มีคนของตระกูลชินวัตร ในการเลือกตั้งรอบหน้าเป็นแคนดิเดต
**ชื่อที่มีข่าวไปแล้ว คือ คุณวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
**ชื่อใหม่ที่ข่าวกำลังมาแรง คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ
**ข่าวลือที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พ.ต.อ.ทวี จะขยับไปเป็นแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย แล้วส่งต่อพรรคประชาชาติให้ “อาจารย์วันนอร์” เพื่อปั้นเป็นพรรคมุสลิมชายแดนใต้ สู้กล้าธรรม กับภูมิใจไทย แบบเต็มตัว
**พ.ต.อ.ทวี มีภาพมือปราบเขากระโดง และมือปราบฮั้ว สว. ถือเป็นจุดขายได้ แต่ความเสี่ยงคือคดีที่ยังค้างในศาลรัฐธรรมนูญ ที่ถูกร้องจริยธรรม กรณีแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ ในคดีฮั้ว สว.
**ไอเดีย “นายใหญ่คลองเปรม” คือ วางคนย้อนเกล็ดศัตรูการเมือง
- ลูกท็อป วราวุธ => ตัวแทนสายอนุรักษ์นิยมอินเตอร์ ภาษาอังกฤษเยี่ยม บทบาทฟาดกัมพูชา คนยังจำได้ ไม่มีข้อกังขาเรื่องจงรักภักดี
- พ.ต.อ.เอกทวี => เชิดขึ้นมาเพื่อชนภูมิใจไทยทุกเวที เพราะเก็บงำข้อมูลคดีฮั้ว สว. และเขากระโดง ไว้เต็มกระเป๋า
**การดึงคนนอกพรรคมาเป็นแคนดิเดต จะทำให้คนในพรรคน้อยใจ จนถอดใจ เลือดไหลออกอีกระลอกหรือไม่
สี่ โอกาสไล่บี้ภูมิใจไทย ด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ความท้าทาย : โจมตีได้ไม่เต็มปาก เพราะตัวเองเพิ่งเป็นรัฐบาล และล้มเหลวแก้ปัญหากัมพูชา รวมถึงแก้เศรษฐกิจ
ห้า ยกเครื่องการสื่อสาร สร้างภาพใหม่ของพรรค
ความท้าทาย : งานสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และการใช้สื่อใหม่ เป็นปัญหาเรื้อรังของเพื่อไทย
ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเผชิญแต่ข่าวร้าย ทั้งจังหวะไม่ดี และทำพลาดเอง
ผิดกับภูมิใจไทย ทั้งๆ ที่กำลังโดนกระหน่ำหลายเรื่อง แต่ยังมีข่าวดีแทรก และมีวิธีสร้างกระแสเชิงบวก
**คนละครึ่งพลัส ขยายผล ให้ข่าวคืบหน้าการใช้เงินแม้หมดเวลาราชการแล้ว มีการส่งข่าวยอดเงินการใช้จ่ายวันแรก ถึงตอนปิดการใช้ 5 ทุ่ม ข่าวยังถึงมือสื่อมวลชน และแพลตฟอร์มออนไลน์
**การปรากฏตัวของนายกฯอนุทิน ในเวทีต่างประเทศ เป็นบวกทุกรอบ
**การวางกลยุทธ์สื่อสารของ “โฆษกโต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการมีคลิป และภาพนิ่งมุมสวยๆ ขณะกระทบไหล่ผู้นำโลก ระดับทรัมป์ หรือแม้แต่การสร้างกระแสจากการเดินไปพบผู้นำนิวซีแลนด์ และมีภาพกินไอศกรีมด้วยกัน
**เพื่อไทยไม่เคยทำแบบนี้ได้เลย โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่เป็นรัฐบาลก่อนภูมิใจไทย