svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ ใช้ยาแรงแก้สแกมฯ สั่งตัดไฟตัดเน็ตพื้นที่ลักลอบทันที

นายกฯ ถกแก้ "สแกมเมอร์" สั่งใช้ยาแรง ตัดไฟ-ตัดเน็ต พื้นที่ลักลอบทันที โดยเฉพาะปอยเปต ท้า!! ฝ่ายค้านเปิดชื่อ 7 นักการเมืองเอี่ยว เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ

20 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568  ซึ่งใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยเปิดเผยว่า ได้ประชุมทุกหน่วยงานเพื่อให้ทราบว่า ปัญหาสแกมเมอร์เป็นปัญหาระดับโลก และเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้​ (21 ต.ค.) เพื่อให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่ มีการยึดทรัพย์ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดในระดับหมื่นล้าน แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ คนจึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลไม่ได้อยู่เฉยๆ และได้สั่งการให้ดำเนินการเข้มข้นมากขึ้น

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า สแกมเมอร์ขณะนี้อยู่ที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรีระบุว่า อยู่ทั่วไป​ แต่ฐานหลักยังอยู่ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และวันนี้เลขา กสทช.ได้ยืนยันว่า ได้มีการระงับสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ส่งจากไทย ไปยังพื้นที่สแกมเมอร์เพื่อนบ้านทั้งหมดแล้ว​ แต่หากจะมีการนำสัญญาณตรงไหนไปใช้ ก็ต้องประสานประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสันติภาพในการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรม 

นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

นายอนุทิน​ ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่ได้มีการตั้ง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานอนุกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์​ ขณะนี้มีคณะอนุกรรมการ 2-5 ชุด ตนพยายามให้มีการรวม มีหน่วยงานหลักคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ กระทรวงยุติธรรม​ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน​ หรือ​ ปปง. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงมหาดไทย
 

ย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีชื่อใครทั้งนั้น จะต้องรอให้อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็นเลขานุการของคณะกรรมการชุดนี้ รวบรวมรายชื่อ เนื่องจากคณะอนุกรรมการชุดนี้ถูกแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี
 

ส่วนมาตรการยาแรงในการแก้ไข​ปัญหา​ เลขา กสทช.ได้ดำเนินการเรื่องปิดสัญญาณ และตัดการสนับสนุนเรื่องพลังงาน​ ในพื้นที่ติดต่อชายแดนกัมพูชา​ ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแล สามารถหยุดการให้บริการ หรือสนับสนุนคนทำผิดกฎหมายได้ทันที ถือเป็นยาแรง และสั่งให้มีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ทันที​ หากเป็นการสนับสนุนการกระทำผิด​ โดยยึดตามมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เคยมีไว้ ไม่ต้องเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง​ 

ท้าฝ่ายค้านเปิดชื่อ 7 นักการเมืองเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์
 

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีนักการเมือง​ 7 รายชื่อ เข้ามาเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์​ นายกรัฐมนตรีระบุว่า​ ตนก็รอรายชื่อ​ แต่กลับกลายเป็นว่า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ออกมาปฏิเสธข่าวดัง​กล่าวพร้อมย้ำว่า​ หากพบเส้นทางการเงินเข้าไปเกี่ยวข้อง มีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วอย่าง ปปง.​ พร้อมกล่าวย้ำว่า หากพบจะไม่ดูว่าชื่อหรือตำแหน่งอะไร แต่หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิดชัดเจน ใครผิดก็ต้องดำเนินการ 

นายอนุทิน​ ยังกล่าวว่า​ หากฝ่ายค้านมีข้อมูลเรื่องสแกเมอร์​ ขอให้เปิดเผย เพื่อให้ง่ายและไม่ต้องคาดเดา สามารถดำเนินคดีได้ เพราะฝ่ายค้านเป็นฝ่ายตรวจสอบ สามารถดำเนินการได้ทันที ขอให้ส่งรายชื่อมาอย่างเป็นทางการ

นายอนุทิน​ ยังเปิดเผยได้ว่า มีผู้ที่กระทำความผิดถือสัญชาติไทย และถือสัญชาติอื่นด้วย จึงเป็นที่มาที่ตนไม่ยอมเซ็นมอบสัญชาติให้ โดยได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ไปดำเนินการถอนสัญชาติ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์

ส่วนที่ นางสาวสฤณี​ อาชวานันทกุล​ นักวิชาการอิสระ​ ออกมาระบุข้อมูลเชื่อมโยงสแกมเมอร์​ นายกรัฐมนตรี​ ยอมรับว่า ไม่ยังไม่ได้อ่านข้อมูลดังกล่าว ส่วนที่มีการเชื่อมโยงถึงบริษัทและบุคคลต่างๆในประเทศไทย หากโยงถึงใครคนนั้นก็โดน ซึ่งต้องดูจากพฤติกรรม หากใครทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี หากประเทศไทยไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดและเข้มงวด แต่เมื่อมีการไปเจรจา ารฑูต​ การลงทุน​ รวมถึงการเมือง เรื่องนี้จะทำให้เราเสีย​ และถูกกดดัน​ จึงต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด​

นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยอีกว่า ในการประชุมเพื่อติดตามสแกมเมอร์ จะประชุมเท่าที่จำเป็น พร้อมเปิดเผยด้วยว่า เคยโดนสแกมเมอร์โทรมาคุย และตนก็คุยกับเขา สแกมเมอร์เสียงหวานดี

ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาสนับสนุนให้ไทย ไม่เข้าร่วมการประชุม GBC เนื่องจากกัมพูชาไม่ยอมทำตามข้อตกลง นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า อะไรที่ดำเนินการอยู่แล้ว และประเทศไทยไม่ได้สูญเสียประโยชน์​ โดยยึดถือเกียรติภูมิของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ โดยจะดำเนินการจนกว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ว่า จะสู้กันต่อประจันหน้ากัน หรือต่างคนต่างไป ต่างคนต่างยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน จะค้างเติ่งแบบนี้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่มีการเก็บอุปกรณ์สื่อสาร และโทรศัพท์ ผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด ใส่ในถุงซิปล็อก ไว้หน้าห้องประชุม และยังมีการปิดห้องประตูห้อง และปิดม่าน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ยืนเฝ้าหน้าประตูทั้งหมดอย่างแน่นหนา โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในตึกสันติไมตรี