
8 ตุลาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร หรือ กมธ.ทหาร คนที่ 6 และ น.ท.กิตติพงษ์ ปิยะวรรณโณ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาและแก้ไขกฎหมายอันเกี่ยวกับศาลทหาร คนที่ 2 ร่วมแถลงข่าวกรณีการทุจริตในฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด (ฐตร.)
นายเชตวัน กล่าวว่า จากที่ตนได้เคยแถลงไปแล้วกรณีฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด (ฐตร.) ทัพเรือภาคที่ 1 ที่มีการติดตามคาดการณ์ว่า จะมีการทุจริตหรือไม่ ตนต้องขอบคุณ พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ที่ออกมาติดตามเรื่องนี้ด้วยความรวดเร็ว เป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นจากกองทัพ ไม่ว่าจะเหล่าทัพไหน ความรวดเร็วและการรับประกันว่า จะไม่มีการช่วยเหลือกันเองในกองทัพ ไม่ปกป้องกันเองในกองทัพ เป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น แต่สิ่งสำคัญหลังจากนี้คือความโปร่งใสในการตรวจสอบ และสุดท้ายคือการเปิดเผยผลสอบการลงโทษอย่างตรงไปตรงมา ตามฐานความผิดที่มีผู้กระทำผิด
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการส่งพลทหาร ไปทำงานที่ท่าเรือเฟอร์รี่ของเอกชน โดยไปทำงานโบกเรือ และไปเป็นลูกเรือข้ามฟากที่บริเวณแหลมงอบ และเกาะช้าง จ.ตราด ทางกองทัพเรือก็ทราบเรื่องนี้แล้ว และได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างที่เรียกว่าเก๊ และจะมีการทุจริตหรือไม่นั้น ก็เพิ่งทราบว่ามีการตรวจสอบอยู่เช่นกัน
ขณะที่การลักลอบขนน้ำมัน ออกไปครั้งละ 1,000 ลิตร อีกทั้ง ผู้ที่ตนเคยได้กล่าวอ้างถึงตัวย่อ เสี่ย ก. ที่คาดการณ์ว่า จะมีการนำน้ำมันไปขายให้กับเสี่ย ก. นั้น เสี่ย ก.ได้มีการมาชี้แจงแล้วว่า ในส่วนของ ฐตร.พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่รกร้าง ก็เลยอยากที่จะไปปรับปรุงทำให้ภูมิทัศน์ดีขึ้น จึงได้นำรถแบคโฮที่ตนเองมี ไปช่วยดูแลพื้นที่ และมีการจัดสร้างพระบรมอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้น โดยชี้แจงว่าเป็นการทำบุญและทำให้ฟรี แต่ในขณะที่กองทัพเรือก็ไปช่วยเหลือในเรื่องของน้ำมันของในหน่วย ซึ่งตนไม่ทราบว่าในรายละเอียดสามารถทำได้หรือไม่
นายเชตวัน กล่าวอีกว่า ในวันที่ 12-14 พ.ย. 2568 กมธ.การทหาร จะลงพื้นที่ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน หวังว่าผลการตรวจสอบที่ทางกองทัพเรือชี้แจงว่ากำลังดำเนินการอยู่ จะออกมาในช่วงลงพื้นที่พอดี ซึ่งเป็นระยะเวลา 1 เดือน คาดว่าจะได้เห็นผลสอบจากทัพภาคที่ 1
ด้าน น.ท.กิตติพงษ์ ปิยะวรรณโณ กล่าวว่า กรณีการเบิกจ่ายน้ำมัน ที่ไม่อยู่ในบัญชีควบคุมโดย เสี่ย ก. ว่า จากข้อมูลที่ได้รับทราบ เสี่ย ก. ชี้แจงว่า ฐานทัพเรือตราดมีพื้นที่รกร้าง และตนได้เข้าไปช่วยทำบุญสร้างอนุสาวรีย์ในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่มีการเติมน้ำมันจากกองทัพเรือเพื่อใช้ในการดำเนินการ
น.ท.กิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า หากหน่วยงานของรัฐต้องการดำเนินโครงการใด ๆ โดยใช้งบประมาณหรือทรัพยากรของหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน วัสดุอุปกรณ์ หรือเงินงบประมาณ จะต้องมีการตั้งโครงการอย่างเป็นทางการผ่านขั้นตอนการอนุมัติ และจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบราชการ แต่กรณีนี้ไม่มีการจัดทำโครงการ และไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกองทัพเรือ จึงไม่สามารถอ้างเหตุผลในการชี้แจงได้ เพราะอาจถือเป็นหลักฐานสำคัญในการตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ นายเชตวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องบอกว่ากรณีของเสี่ย ก. ยังไม่ใช่เป็นการแถลงข่าว หรือเป็นการชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการพูดคุยกับเพื่อน สส.ของเราในพื้นที่มาเล่าให้ฟัง ก็เลยอยากที่จะนำมาพูดถึงความคืบหน้าตรงนี้