
7 ตุลาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงความชัดเจน สส.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ว่า นี้ทางพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ซึ่งหลังจากวันนั้น ยังมีความมั่นใจ ว่า คนที่ที่ตนไปหารือและเชิญมาร่วมงาน ก็ยังยืนยันจะมาร่วมทำงานทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย
ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งผลต่อการย้ายมาสังกัดของ สส. อย่างไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า คนที่ตนไปพูดคุยยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ลาออก เขาต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งแต่ละคนก็มี สส.พรรค ในทีมของตัวเอง จึงมีการชะลอในการเลือกหัวหน้าพรรคให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อถามว่า หากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายอภิสิทธิ์จริง กลุ่มที่คุยไว้จะยังมาร่วมงานหรือไม่ นายพิพัฒน์ ระบุว่า การตัดสินใจของแต่ละคน ตัวเองยังมีความมั่นใจ
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ สส.ภาคใต้เพิ่มขึ้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของตนคงไม่สามารถตอบอะไรได้ ต้องถามคนไทยทุกคนว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเลือกใคร แต่แน่นอนว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้บอกแล้วว่าระยะเวลา 4 เดือนที่เหลืออยู่ อาสาเข้ามาแก้ปัญหาหลายด้าน ก็จะทำให้เร็วและดีที่สุด ก่อนจะคืนอำนาจให้คนไทยทุกคน เพื่อให้ความมั่นใจว่าต้นปีหน้าคืนอำนาจให้กับประชาชนว่าจะเลือกใครเข้ามาบริหารต่อไป แต่ย้ำว่า 4 เดือนจากนี้ไป นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นรัฐรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะพยายามทำงานให้เร็วและดีที่สุด เรื่องสำคัญที่สุดวันนี้คือเรื่องปากท้อง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร
ขณะที่นโยบายภาคใต้ ของพรรคภูมิใจไทยนั้น คณะกรรมการบริหารพรรคกำลังร่าง โดยจะยึดตามแต่ละภูมิภาคของประเทศ เช่น ภาคใต้มีเรื่องปัญหายางพารา ปาล์มและผลไม้ตามฤดูกาล ขณะที่ภาคกลางภาคอีสานเป็นเรื่องข้าว รวมถึงนโยบายในกรุงเทพฯจะทำอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของแต่ละภูมิภาค คงไม่ประกาศเป็นภาพรวมว่า เศรษฐกิจประเทศไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะไม่เป็นลักษณะเหมาเข่ง แต่จะเน้นในแต่ละภูมิภาค