
29 กันยายน 2568 ที่รัฐสภาในการแถลงนโยบายรัฐบาล นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนมีความเคลือบแคลงสงสัยมาโดยตลอด คิดเสมอว่า รัฐบาลนี้เปรียบเหมือนผู้ป่วยโปลิโอ นับตั้งแต่วันแรก ท่านก็เป็นคนที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ เพราะวันที่โหวตเลือกนายกฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บอกชัดเจนว่า ไม่ได้เลือก นายกฯ มาบริหารราชการแผ่นดิน แต่เลือกมาตาม MOA เพื่อยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นโยบายของรัฐบาลโปลิโอ ผมได้เปิดอ่านนโยบาย 5 ด้าน 15 ข้อ ไม่มีสักข้อที่ระบุว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยุบสภาภายใน 120 วัน แต่รัฐบาลพยายามเขียนนโยบายให้ดูดี วาดภาพเหมือนผู้ชายที่หล่อ แต่ป่วยอยู่ข้างใน ท่านบอกจะแก้หนี้ภาคประชาชน รายละไม่เกิน 100,000 บาท ขอถามว่าจะเอางบประมาณจากไหน หรือพูดแค่ให้ได้คะแนน ต้องการคะแนนความนิยม มีผลโพลดีขึ้นหรือไม่ ผมไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำได้ภายใน 4 เดือน
ส่วนการฟื้นความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว แผนคืออะไร รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะกล้าเสนอ พ.ร.บ.การเงิน เข้ามาในสภาฯ นี้หรือไม่ เพื่อนสมาชิกที่โหวตให้ท่านเป็นนายกฯ เขาจะโหวตให้หรือไม่ การตั้งรัฐมนตรีคนนอก ตนชื่นชม ครม.หน้าตาดี แต่บางท่านก็เป็น ครม.สตั๊นแมน โหวตแล้วเป็นไม่ได้จึงต้องหาตัวแทนมาเป็น วันนี้รัฐบาลต้องสร้างความน่าเชื่อถือ 4 เดือนนโยบาย Quick Win คืออะไร เพราะที่ทำมาตลอดคือพลังดูด
นโยบายทั้ง 5 ด้าน สิ่งที่ไม่ได้ลงลึกรายละเอียดคือ นโยบายด้านการศึกษา เหตุใดที่ไม่เขียนว่า ตั้งแต่ที่เป็นรัฐบาลจะผลักดันหนึ่งตำบลหนึ่งโรงเรียนคุณภาพ เด็กไม่ต้องไปเรียนในเมือง เรียนใกล้บ้านก็มีอุปกรณ์การศึกษาครบถ้วน เช่นเดียวนโยบายปราบปรามยาเสพติด ต้องระบุว่าจะปราบปรามยาเสพติดอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศชาติ เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทำลายสถาบันชาติ ทำลายครอบครัว ทำให้เกิดอาชญากรรมในสังคม แต่ท่านกลับไม่ให้ความสำคัญ
ขณะที่ด้านสาธารณสุข นายกฯ ทราบดี เนื่องจากเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมา 4 ปี ระบบสาธารณสุขไทยมีปัญหาอย่างไร โรงพยาบาลชุมชนขาดแคลนบุคลากรและงบประมาณ รัฐบาลต้องมีธงหลักชัดเจนว่า จะพัฒนายกระดับสาธารณสุขอย่างไร ท่านบอกว่าท่านเป็นพรรคการเมือง ที่สนับสนุนการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น แต่กลับไม่เห็นในคำแถลงนโยบาย
นายชัยชนะ กล่าวว่า รัฐบาลมีอายุ 120 วัน ตามข้อตกลง นายกฯ พยามบอกกับสังคมว่า คณะรัฐมนตรีจะทำงานไม่หยุดหย่อน หาก 120 วันใช้ทุกเวลาทุกนาทีให้มีค่า เชื่อว่าประชาชนชาวไทยจะได้ประโยชน์ แต่ถ้า 120 วันมีเป้าหมายชัดเจน หาคนเข้าพรรค หาเสียงให้กับพรรคที่สังกัด สร้างคะแนนความนิยม ทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตนไม่อยากเห็นการเมืองไทยที่เวลาเลือกตั้ง เราพูดตลอดเวลาว่า ทำเพื่อประเทศชาติประชาชน เพื่อให้สังคมยั่งยืนมั่นคง แต่พอออกจากเวทีปราศรัยกลับทำเพื่อตัวเรา และครอบครัวเราให้มั่นคงยั่งยืน
สิ่งที่ตนคาดหวังในรัฐบาลชุดนี้ และไม่อยากได้ยินข่าวเสียหาย ซึ่งเริ่มจะมีบ้างแล้ว ไม่กล้าจะบอกว่ากระทรวงไหนกรมไหน บอกว่าจะมีการเร่งปฏิรูปกฎหมาย และยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างเคร่งครัด จึงขอฝากไปถึงนายกฯ ให้เช็ก การข่าวดูใน ครม.อาจจะแต่งตั้งตัวแทนเพื่อไปเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในความก้าวหน้าราชการกันบ้างแล้ว
"ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ ไม่ทราบเรื่อง เชื่อว่าท่านไม่มีอุปนิสัยอย่างนี้ แต่ถ้าคนใน ครม.ทำสิ่งเหล่านี้ต้องเอาออกจาก ครม.ผมอภิปรายไม่ใช่เพราะเป็น สส. แต่อภิปรายในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชนชาวไทย ที่จ่ายภาษีให้กับประเทศชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลที่กล้าประกาศต่อหน้าประชาชนชาวไทยว่า จะเป็นรัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริตมือสะอาด หวังว่าจะไม่เห็นการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ ท่านจงจำไว้ว่าการทำงานของท่านต้องมี สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แล้วนายกฯ จะทำงานได้ดี" นายชัยชนะ กล่าว