
18 กันยายน 2568 เหตุการณ์วุ่นวายที่มวลชนกัมพูชาสร้างความปั่นป่วน ประท้วง และพยายามรื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวานนี้ (17ก.ย.2568) ทั้งๆ ที่ตัวเองละเมิดอธิปไตย เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตไทย แต่ยังก่อความวุ่นวายนั้น
ล่าสุด แม้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไทยจะระงับเหตุ ด้วยการใช้แก๊สน้ำตา แต่ก็ยังมีกระแสตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่า เหตุใดจึงไม่จับกุมดำเนินคดีชาวกัมพูชา เพราะถือว่ากระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพ อธิบายเรื่องนี้ว่า การดำเนินการของฝ่ายไทย ยึดตามขั้นตอน “จากเบาไปหาหนัก” ตามที่เคยประกาศเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชานำหยิบฉวยไปใช้ขยายผลในเวทีต่างประเทศ
จากภาพเหตุการณ์ล่าสุด ชัดเจนว่า ฝ่ายกัมพูชาใช้มวลชนก่อความวุ่นวาย และฝ่ายไทยพยายามระงับเหตุโดยใชัแนวทางสันติวิธีถึงที่สุด การใช้แก๊สน้ำตาก็เป็นวิธีการปกติที่ใช้กันทั่วโลก
แต่หากฝ่ายกัมพูชายังไม่หยุด และการเจรจาไม่เป็นผล ฝ่ายไทยก็จะดำเนินการในขั้นต่อไป คือ จับกุมดำเนินการคดีตามกฎหมาย ฐานบุกรุกแผ่นดินไทย โดยอำนาจการจับกุม ดำเนินคดี คือฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลัอม เพราะพื้นที่ตั้งบ้านเรือนบางส่วนของชาวกัมพูชาอยู่ในเขตป่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีการดีเดย์ดำเนินคดี ในวันที่ 26 กันยายน เป็นต้นไป ซึ่งครบ 1 เดือนหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขึ้นป้ายประกาศเตือนให้ออกจากพื้นที่ซึ่งเป็นเขตอธิปไตยไทย ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน “จากเบาไปหาหนัก” และยึดกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ด้านแหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 1 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้มีการหารือกันเป็นการภายในแล้ว ว่าจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนในระดับต่อไปแน่นอน หลังจากใช้แก๊สน้ำตาแล้ว โดยเน้นดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งทางฝ่ายทหารมีขั้นตอนดำเนินการพร้อมอยู่แล้ว