เปิดเบื้องหลัง “ดีลลับ-สัญญาใจ” “เฉลิมชัย” พลิ้วไขก๊อก ปชป.

12 กันยายน 2568 สร้างความตกใจให้กับคอการเมืองไม่น้อย เมื่อมีรายงานข่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หรือ เสี่ยต่อ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจากการตรวจสอบไปยัง สส.และแกนนำพรรคหลายคน ได้รับคำยืนยันว่า แทบไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน และไม่รู้เหตุผล ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แกนนำพรรคอย่าง “อดีตหมอแทน” ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกกับ “ข่าวข้นคนข่าว” ว่า ไม่ทราบเหตุผล และไม่ทราบข่าวมาก่อน เพิ่งทราบพร้อมๆ กับสื่อมวลชน 

ขณะที่ “ศูนย์ข่าวภาคใต้ เนชั่นทีวี” ตรวจสอบไปยัง สส.ของพรรคในพื้นที่ ทุกคนพูดตรงกันว่า รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สอบถาม สส.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา ก็บอกว่า “ยังงงอยู่ เพราะหัวหน้าพรรคไม่เคยส่งสัญญาณอะไรมาก่อน จู่ๆ ก็ให้คนสนิทไปยื่นใบลาออก ตนไม่ทราบเรื่องเลย

ด้าน คุณเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกสั้นๆ เพียงว่า ยังไม่ทราบเรื่อง จึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้

ล่าสุด มีข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ในวันพรุ่งนี้ 13 กันยายน ซึ่งเป็นวันเสาร์ เวลา 10.00 น. ผศ.ดร. เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย คุณธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรค จะแถลงข่าวเรื่องการลาออกของหัวหน้าพรรค  ที่ห้องแถลงข่าวพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นคาดว่าจะให้เหตุผลเรื่องสุขภาพ และการเตรียมวางมือทางการเมือง

มีรายงานด้วยว่า นายเฉลิมชัย และแกนนำพรรคที่เป็นรัฐมนตรีบางราย มีสัญญาใจบางอย่างกับ สส.พรรคในกลุ่ม ประมาณ 20-21 คน ซึ่งสนับสนุนผู้บริหารพรรคกลุ่มนี้ให้ดำรงตำแหน่งในพรรค และดำรงตำแหน่งทางการเมือง

แต่เมื่อรัฐบาลแพทองธาร อายุสั้นกว่าที่คาดไว้ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมรัฐบาลชุดใหม่กับพรรคภูมิใจไทย ทำให้ นายเฉลิมชัย อาจจะคิดวางมือทางการเมือง และล้มเลิก “ดีล” หรือ “สัญญาใจ” บางอย่างที่ให้ไว้กับ สส.ของพรรค

มีรายงานอีกว่า ขณะนี้มีกระแสระส่ำระสายภายในพรรค เพราะช่วงที่นายกฯ แพทองธาร โดนมรสุมทางการเมือง ก็มีข่าว สส.ของพรรค ถูกดูดจากค่ายสีน้ำเงิน มีการไปเจรจาถึงบ้านของ สส.หลายคน และมีบางคนปันใจไปกับพรรคสีน้ำเงิน และพรรคการเมืองใหม่แล้ว

ขณะที่กลุ่ม สส.ที่เหลืออยู่ มีข่าวว่า กำลังหารือกัน อยากให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาฟื้นฟูพรรค โดยมี นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ 2 สมัย และ อดีตประธานสภา 2 สมัย กับกลุ่มปูชนียบุคคลช่วยเหลือกัน

แต่ก็มีข่าวอีกด้านระบุว่า การจะฟื้นฟูพรรค ไม่สามารถใช้คนรุ่นเก่าได้อีกแล้ว เนื่องจากการเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก น่าจะต้องใช้คนรุ่นใหม่มาทำงานมากกว่า แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ