
2 กันยายน 2568 การแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียดไทย-กัมพูชา ยังคงมีปัญหาความเห็นไม่ตรงกันระหว่างกองทัพกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือ การจัดการปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย เข้ามาสร้างบ้านเรือนและชุมชนที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
มีรายงานจากฝ่ายกองทัพว่า ที่ผ่านมากองทัพจับตามองท่าทีของผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และรัฐบาล ซึ่งรับปากว่าจะดำเนินมาตรการกดดันชาวกัมพูชาที่ล้ำแดนไทย ด้วยการประสานให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ไปติดป้ายแจ้งเตือนให้ออกจากพื้นที่ หากไม่ออก จะมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการดำเนินมาตรการทางปกครอง
“จากเบาไปหาหนัก” และสามารถทำได้ทันที เพราะพื้นที่นี้อยู่ในเขตอธิปไตยของไทยชัดเจน กัมพูชาก็มีหนังสือยอมรับตั้งแต่ปี 2549
เรื่องนี้ทางกองทัพได้หารือกับผู้ว่าฯสระแก้ว และ รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย โดยได้หารือกันตั้งแต่ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีนายกฯแพทองธาร ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะดำเนินมาตรการดังกล่าว แต่เวลาผ่านมาเกือบๆ 1 สัปดาห์ กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ
ด้วยเหตุนี้ ทางกองทัพจึงเตรียมมาตรการดำเนินการ เพื่อผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งคนไทยให้ความสนใจกันมาก และบรรยากาศยังคงตึงเครียด สุ่มเสี่ยงเผชิญหน้าอยู่ตตลอดเวลา / โดยมาตรการมี 2 ระดับ คือ
1.ทำหนังสือเปิดผนึกแจ้งเตือนไปยังรัฐบาลกัมพูชา และหน่วยงานที่รับผิดชอบของฝ่ายกัมพูชา ให้อพยพชาวกัมพูชาที่ล้ำแดนในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ออกไปภายใน 1 เดือน หลังจากนี้ถ้าไม่อพยพ ทางการไทยก็จะดำเนินการในขั้นต่อไป คือ บังคับใช้กฎหมาย
การแจ้งเตือนดังกล่าวนี้ หวังผลถึงฝ่ายปกครองของไทยเอง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และรัฐบาล ให้ดำเนินการตามที่ได้ตกลงไว้กับฝ่ายทหารด้วย นั่นก็คือการขึ้นป้ายเตือนให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ และเตรียมการด้านกฎหมายให้พร้อม / เรื่องนี้ถือว่าเป็นไปตามที่รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม เคยประกาศเอาไว้ ว่าหากฝ่ายกองทัพต้องการสิ่งใด ให้แจ้งไปยังรัฐบาล
2.มีหนังสือฉบับที่ 2 โดยเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง ส่งถึงสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า ทางกองทัพได้มีหนังสือเปิดผนึกไปยังกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ควรไปตรวจสอบว่ากัมพูชามีแผนอพยพหรือไม่ ถ้าไม่มี ฝ่ายไทยต้องดำเนินการขั้นตอนต่อไป คือ จับกุม ขับไล่ โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพไทย ระบุว่า เรื่องนี้ต้องกระตุ้นเตือนทั้งฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายปกครองของไทยเอง เนื่องจากทราบปัญหามาตลอด แต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม