svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบในอนาคต ด้าน "กรมการปกครอง" ยันไม่ใช่การจัดเก็บข้อมูลของสำนักทะเบียนกลาง

จากกรณี มีการเตือน "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล หลายประเทศสั่งหยุดเก็บข้อมูลแล้ว ตร.ไซเบอร์ เตรียมหารือ ดีอี และพบมีการตั้งอุปกรณ์สแกนม่านตา ชื่อว่า Orb ในการสแกนเก็บข้อมูลม่านตาของประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนตามห้างสรรพสินค้า หลายจังหวัด และชักชวนไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเหรียญเงินดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency เป็นเงินประมาณ 500 – 1,000 บาท จนเป็นกระแสเมื่อ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา

 

 

27 สิงหาคม 2568 ล่าสุด นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งภาคธุรกิจและชีวิตประจำวัน ว่า

 

การดำเนินธุรกิจ การสื่อสาร การศึกษา การทำงาน และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่หลากหลายจนมีความครอบคลุมไปจนถึงด้านความปลอดภัย

อย่างการเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากของระบบ การยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ (Biometrics) ผ่านรูปยืนยันตัวตนด้วยการสแกนลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า การสแกนม่านตา

 

 

โดยล่าสุดจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) รายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500–1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆของประเทศไทย

อ้างว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย

 

 

นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบันข้อมูลถือเป็นสิ่งที่มีมูลค่าเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ อย่างเช่น ลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า การจดจำเสียง และส่วนสำคัญที่สุดอย่าง ม่านตา ถือว่าเป็นข้อมูลทรัพย์สินดิจิทัลส่วนบุคคลที่มีมูลค่าสูงสุด เนื่องจากยากต่อการเปลี่ยนแปลง มีความเฉพาะตัวเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถนำไประบุและยืนยันตัวตนของบุคคลนั้น ๆ ได้อย่างเฉพาะเจาะจง

 

ดังนั้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้

 

การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code ที่ถูกสร้างขึ้นเกิดการรั่วไหล แฮกเกอร์หรือผู้ไม่หวังดีอาจนำข้อมูลนี้ไปใช้ในทางที่ผิดได้ในอนาคต
การถูกสวมรอย ข้อมูลม่านตาเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ หากถูกขโมยไป อาจนำไปสู่การสวมรอยทำธุรกรรมทางการเงินหรือเข้าถึงบริการต่างๆ ที่ใช้การสร้าง Deepfake ข้อมูลชีวภาพสามารถนำไปใช้ในการสร้าง Deepfake เพื่อก่ออาชญากรรมไซเบอร์ที่ซับซ้อนและจับตัวได้ยาก

 


“ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพเป็นข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหว ซึ่งการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยจะต้องมีความเข้มงวด ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศ เช่น สเปน บราซิล อินเดีย และเยอรมนี ยังไม่อนุญาตให้มีการสแกนม่านตาเพื่อเก็บข้อมูลบุคคลในลักษณะนี้

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลในระดับสากลและจากรณีดังกล่าวที่ได้เกิดขึ้น รัฐบาลขอให้ประชาชนตระหนักว่าข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนกับเพียงผลตอบแทนเพียงเล็กน้อย อาจได้ไม่คุ้มเสีย หากเกิดความเสียหายขึ้นในอนาคต อาจเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และไม่อาจจะสามารถแก้ไขได้อีกเลย” นายอนุกูล กล่าว

 

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

 

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

 

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

 

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

 

 

 

ด้าน "กรมการปกครอง" ก็เตือนด้วย

 


ขณะเดียวกัน กรมการปกครอง ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มบุคคลใช้อุปกรณ์สแกนม่านตา ชื่อว่า Orb ในการสแกนเก็บข้อมูลม่านตาของประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนตามห้างสรรพสินค้า และชักชวนไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเหรียญเงินดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency เป็นเงินประมาณ 500 – 1,000 บาท

 

กรมการปกครอง ตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่าการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลม่านตาดังกล่าวนั้น ไม่ใช่การดำเนินการจัดเก็บข้อมูลของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง หรือส่วนราชการอื่นๆ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลในท้องที่ สอดส่องการจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่าให้เกิดการหลอกลวงประชาชน

เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากประชาชนถูกหลอกหลวงไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าวสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม
 
กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลม่านตาดังกล่าวนั้น   ไม่ใช่การดำเนินการจัดเก็บข้อมูลของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง หรือส่วนราชการอื่น ๆ 

จึงขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลในท้องที่ สอดส่องการจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่าให้เกิดการหลอกลวงประชาชน เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากประชาชนถูกหลอกหลวงไม่ได้รับความเป็นธรรม   

 

หรือพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าวสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 

 

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

 

 

ด่วน! "รัฐบาล" เตือนประชาชน "สแกนม่านตา" ยืนยันตัวตน แลกเงินดิจิทัล เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล หลายประเทศสั่งหยุดเก็บข้อมูลแล้ว ตร.ไซเบอร์ เตรียมหารือ ดีอี