svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล หลายประเทศสั่งหยุดเก็บข้อมูลแล้ว ตร.ไซเบอร์ เตรียมหารือ ดีอี

22 สิงหาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ออกเตือนประชาชนในการสแกน QR และสแกนตา สำหรับ World ID แลกเงินดิจิทัล World เป็นค่าตอบแทน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ราว 800 - 1,000 บาท

โดยพบการระบาดใน ห้างสรรพสินค้า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กับมีรายงานว่าเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ สร้างความกังวลต่อสังคมอย่างกว้างขวาง

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

 

 

 

โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ในเรื่องนี้การสแกนม่านตาเป็นการเก็บข้อมูลทางชีวภาพ ข้อมูลอัตลักษณ์ส่วนบุคคล ซึ่งถ้าเราให้ไปแล้วทางผู้รับไปแม้จะบอกว่ามีการลบภาพดวงตาเราออกไปแล้ว

แต่ก็มีการเปลี่ยนภาพดวงตาเป็นข้อมูลประเภทอื่น และไม่สามารถนำย้อนกลับมาใช้ได้ก็ตาม แต่เมื่อมีการเปลี่ยนข้อมูลแล้วก็ ยังมีความเสี่ยงในการตรวจสอบย้อนกลับมาได้

 

ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีกฎหมายใดที่จะมาตรวจสอบ และคุ้มครองข้อมูลของผู้ที่สแกนใบหน้าและม่านตาไม่ให้ตกไปถึงบุคคลที่ไม่หวังดี

จึงอยากออกมาเตือนพี่น้องประชาชนหากท่านจะไปสแกนม่านตาให้เก็บไว้มันคือ ข้อมูลอัตลักษณ์ส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งแน่นอนหากมีการรั่วไหลไปก็อาจจะมีคนนำไปใช้ในเรื่องอื่นได้

 

ในส่วนของตำรวจไซเบอร์ได้มีการตรวจสอบพบว่าในหลายๆประเทศ อย่างเช่น ประเทศสเปนได้ออกคุ้มครองชั่วคราว สั่งให้หยุดเก็บและประมวลผลข้อมูลและบล็อกข้อมูลที่เก็บ ประเทศโปรตุเกสสั่งให้หยุดเก็บเป็นเวลา 90 วัน

ด้วยเหตุผลในเรื่องของการร้องเรียนเกี่ยวกับการสแกนเด็ก และข้อมูลที่ผู้ไปสแกนไม่มากพอ รวมถึง ประเทศเยอรมันนี อินโดนีเซีย ฮ่องกง บราซิล มีการสั่งระงับชั่วคราวหรือให้หยุดสแกนม่านตาสำหรับ World ID

 

ต้องยอมรับว่าจากการประชุมหารือกับหน่วยงานภาครัฐ ยังไม่มีความชัดเจน ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หรือมาตรการในการยืนยันได้ว่าจะไม่มีการกรอย้อนกลับในการเข้าถึงข้อมูลไปพิสูจน์อัตลักษณ์ หลังจากที่ลบภาพดวงตาและเปลี่ยนข้อมูลอื่น

 

เบื้องต้น ได้สั่งการไปยังกลุ่มงาน กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ประมวลเรื่องทั้งหมดเพื่อเสนอให้ทาง พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ต่อไปยัง ผบ.ตร. และกระทรวงดีอี เพื่อหาแนวทางการปฎิบัติต่อไป ส่วนจะเรียกผู้ประกอบการที่ให้สแกนม่านตามาให้ข้อมูลหรือไม่นั้น คงต้องนำเรื่องเข้าไปพิจารณาก่อน

 

 

 

นอกจากนี้เว็บไซต์ "สภาองค์กรของผู้บริโภค" ระบุว่า 

 

ม่านตา คือ ข้อมูลส่วนตัว สแกนเพื่อแลกเงินอาจได้ไม่คุ้มเสีย

เทคโนโลยีใหม่สแกนม่านตาแลกเหรียญดิจิทัลมูลค่า 1,000 บาท เฝ้าระวังม่านตาเป็น ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลชีวภาพที่มีความสำคัญสูงสุด การยินยอมเข้าระบบสแกนจึงต้องรอบคอบ แม้เจ้าของเทคโนโลยีอ้างไม่เก็บข้อมูล ผู้บริโภคต้องตระหนักสิทธิ “ปกป้องตัวเอง”

ในยุคที่ข้อมูลคืออำนาจ การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่กับ “ระบบยืนยันตัวตนผ่านสแกนม่านตา” เพื่อยืนยันตัวตนว่า “เป็นมนุษย์จริง” หรือเรียกว่า Proof of Personhood แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อและนามสกุล โดยใช้ ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลชีวภาพของผู้สมัครและเมื่อยินยอมสแกนม่านตา

ผู้สมัครจะได้รับ “เหรียญดิจิทัล” ซึ่งคิดมูลค่าเงินบาทประมาณ 1,000 บาท เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ในการยืนยันตัวตนเข้าใช้บริการระบบต่างๆ ของแอปพลิเคชันที่มีการเชื่อมกับระบบไว้

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

 

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ดำเนินการเป็นตัวแทนของบริษัทเอกชนภายใต้ชื่อ “World” ใช้อุปกรณ์ไบโอเมตริกส์เก็บข้อมูลม่านตา

โดยอ้างว่าเพื่อยืนยันตัวตนความเป็นมนุษย์ และแจกเหรียญดิจิทัลราว 50 เหรียญให้ผู้สมัครใจเข้าร่วม ก่อนนำไปแลกเป็นเงินสดผ่านนายหน้าภายในแอป “World App” 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบ ข้อมูลจากเว็บไซต์ Bitkub Blog ให้ข้อมูลว่า

 

Worldcoin คืออะไร?

 

World คือ เครือข่ายที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อมอบโอกาสในการเข้าถึงเศรษฐกิจโลกให้แก่ทุกคน โดยถูกออกแบบมาให้เป็นแบบกระจายอำนาจ (Decentralized) หมายความว่าผู้ใช้ทุกคนในระบบจะมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการทำงานของระบบ ไม่ใช่แค่หน่วยงานส่วนกลางเพียงแห่งเดียว

 

 

 

ระบบนิเวศของ World ถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือของเครื่องมือ 4 อย่างดังนี้

 

1.World ID — ข้อมูลประจำตัวดิจิทัลสำหรับมนุษย์

2.Worldcoin Token — หรือเรียกสั้น ๆ ว่า WLD เป็น โทเคนดิจิทัลที่ใช้ภายในระบบเครือข่าย

3.World App — แอปพลิเคชันที่ช่วยให้เข้าถึง World ได้อย่างง่ายและสะดวก เป็นแอปพลิเคชันบนมือถือที่ถูกออกแบบและพัฒนาโดย Tools for Humanity ที่สามารถใช้เก็บ World ID, ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล และเข้าถึงระบบนิเวศ Mini App ได้อย่างปลอดภัย

ระบบของ World ทำงานอยู่บนบล็อกเชน Layer-2 บนเครือข่าย Ethereum โดยใช้เทคนิค Optimistic Rollups เพื่อรองรับข้อมูลจำนวนมาก ในขณะที่ตัวโทเคนใช้มาตรฐาน ERC-20 ทำให้สามารถทำงานร่วมกับบริการอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มได้

4.World Chain — World Chain เป็นบล็อกเชน Layer 2 บนเครือข่าย Ethereum ที่สนับสนุนการเติบโตผ่านระบบนิเวศ Superchain ทำหน้าที่เป็นบล็อกเชนสำหรับ “มนุษย์ตัวจริง” และเป็นแบบ Open-source ทำให้สามารถเข้าถึงได้ทุกคนโดยไม่ต้องขออนุญาต และให้ประโยชน์มากขึ้นด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง

 

 

ใครคือผู้สร้าง Worldcoin

 

เครือข่าย World ถูกก่อตั้งโดย Sam Altman ทั้งยังเป็นซีอีโอของ OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ยอดนิยม นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมก่อตั้งคือ Alex Blania และ Max Novendstern

 

 

WLD (Worldcoin) คืออะไร?

 

WLD หรือ Worldcoin คือโทเคนดิจิทัลหลักของเครือข่าย World นอกจากจะมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ บน World App แล้ว โทเคนยังมีจุดประสงค์เพื่อให้สิทธิ์ในการกำกับดูแล (Governance) เพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของการพัฒนาและการดำเนินงานของเครือข่าย World ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม WLD ถูกสร้างขึ้นให้มีภาวะเงินเฟ้อ (Inflationary) ซึ่งหมายความว่าแม้ว่า WLD จะมีเพดานโทเคนเริ่มต้นที่ 10,000 ล้าน WLD แต่ภาวะเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อโทเคนมีจำนวนเกิน 10,000 WLD โดยจะเริ่มเร็วสุดใน 15 ปีหลังจากการเปิดตัว (เฉพาะเจาะจงคือวันที่ 24 กรกฎาคม 2038 เวลา 4:00 AM UTC) ซึ่งภาวะเงินเฟ้อจะถูกกำหนดโดยการกำกับดูแลของโปรโตคอล (Protocol Governance) และการจัดสรรโทเคนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นก็จะถูกตัดสินโดยการกำกับดูแลเช่นกัน โดยเพดานเงินเฟ้อที่บังคับใช้โดย Smart contract คือ 1.5% ต่อปี ซึ่งอัตราเงินเฟ้อเริ่มต้นจะอยู่ที่ 0%

สำหรับการจัดสรร WLD ก่อนเปิดตัว 75% ของ WLD ทั้งหมดถูกจัดสรรให้กับชุมชน ในขณะที่ 25% ถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนรายแรก ๆ ของ Tools for Humanity (“TFH”), ทีมพัฒนา และเงินสำรองจำนวนเล็กน้อยที่ถือโดย TFH ซึ่ง ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2025 การจัดสรรจะเป็นดังนี้

 

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

 

เตือน! "สแกนม่านตา" แลก "เงินดิจิทัล" เสี่ยงข้อมูลทางชีวภาพ-อัตลักษณ์บุคคล รั่วไหล

 

 

 

ภาพและข้อมูลจาก Bitkub Blog และ world กับ สภาองค์กรของผู้บริโภค