
26 สิงหาคม 2568 นายชัยชนะ เดชเดโช รมช.สาธารณสุข และ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมรองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ฯลฯ ลงพื้นที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อทำการตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดบริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ว่า มีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายสถานพยาบาลหรือไม่
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานตาม ที่ ครม.มีมติให้ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศกฎกระทรวง เมื่อปี 2567 ว่า สถานพยาบาลที่จะตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวได้ จะต้องยื่นขออนุญาตจากกรม สบส. ก่อน ส่วนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน มีจำนวน 75 แห่ง และในจำนวนนี้มี 41 แห่ง ที่ขึ้นทะเบียนกับ สบส.แล้ว ที่เหลืออยู่ระหว่างยื่นคำขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
นายชัยชนะ กล่าวว่า รพ.เอกชนย่านรังสิต ที่ลงมาตรวจในครั้งนี้ทราบว่า มีการตรวจสุขภาพและออกใบรับรอง ประมาณ 12,000 กว่าคน โดยมีบริษัทนายหน้าเป็นนายจ้างจำนวน 838 แห่ง มีนายจ้างทั้งหมด 1,473 คน ซึ่งเคยยืนยันไปแล้วว่า โรงพยาบาลที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข จะไม่สามารถออกใบรับรองการตรวจสุขภาพ ให้กับแรงงานต่างด้าวได้ หากมีการฝ่าฝืนถือว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 35 ( 4) จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท
หลังจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมาย ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ติดตามแรงงานต่างด้าวทั้ง 12,000 กว่าคน ว่า ทำงานอยู่ที่ไหน และให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง หากพบว่าเอกสารผิด ก็ให้แรงงานต่างด้าวเหล่านั้น ไปตรวจสุขภาพใหม่ ในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ระหว่างนี้ให้หยุดทำงานก่อน
ย้ำว่า เป็นมาตรการป้องกันโรคระบาด เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มอบหมายให้มาดูแลเรื่องนี้
ส่วนเรื่องผู้รับผิดชอบค่าตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว นายชัยชนะ บอกว่า จากการได้พูดคุยกับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาล ของ รพ.เอกชน แห่งนี้ ยืนยันว่า เมื่อได้รับหนังสือรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะดำเนินการตรวจสุขภาพให้แรงงานต่างด้าวทั้ง 12,000 กว่าคนใหม่อีกครั้งฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนสถานพยาบาลอื่นๆ จะถือเป็นมาตรฐานในการตรวจสุขภาพฟรี ให้กับแรงงานต่างด้าวย้อนหลังหรือไม่นั้น ก็เป็นจิตสำนึกของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนั้น ไม่สามารถบังคับได้ เพราะโรงพยาบาลเอกชนไม่ใช่โรงพยาบาลของรัฐ
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสถานพยาบาลมา 2 แห่ง ที่ไม่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข แห่งแรกพบจำนวน 13,000 คน ส่วนในวันนี้แห่งที่ 2 ตรวจพบ 12,000 กว่าคน ดังนั้น จากข้อมูลขณะนี้ มีโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานอยู่ 75 แห่ง ในจำนวนนี้ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แล้ว 41 แห่ง ที่เหลืออยู่ระหว่างยื่นคำขอ
ประมาณการว่า จะมีแรงงานต่างด้าวที่มีปัญหาเรื่องใบรับรองสุขภาพ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานประมาณ 400,000 คน และขอแจ้งเตือนไปยังสถานพยาบาล ที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ขอให้หยุดดำเนินการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวก่อน
ทางด้านกระทรวงแรงงาน นายชัยชนะ กล่าวว่า นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน พูดชัดเจนว่า เป็นเรื่องที่กรมการจัดหางาน จะต้องไปตรวจสอบสถานพยาบาล ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้นเรื่องนี้ชัดเจนและจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ กระทรวงฯ จะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงพยาบาลทั้งหมด ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตต่อไป แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการตรวจจากสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาตถือว่าผิดทั้งหมด
ส่วนสถานพยาบาลจะมองเป็นต่างกรรมต่างวาระก็ได้ สธ.ให้ความเป็นธรรม และใบรับรองการตรวจสุขภาพแรงงานที่ออกไปทั้งหมดถือเป็นโมฆะ ส่วนนายจ้างที่รับแรงงานที่มีการตรวจสุขภาพ โดยสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับการรับรองนั้น คิดว่าแต่ละคนย่อมทราบดีว่า กฎหมายที่กำกับนั้นมีอะไร จึงอย่าใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ต้องมีสำนึกของคนไทย
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า คลินิกสามารถตรวจสุขภาพได้หรือไม่ ทาง สธ.บอกว่า คลินิกไม่สามารถทำได้ โรงพยาบาลกับคลินิกแยกกันชัดเจน ไม่สามารถรวมกันได้ คลินิกไม่มีการอยู่ภายใต้โรงพยาบาล เป็นการขออนุญาตคนละใบ คนละผู้ประกอบการ ส่วนที่มีรายชื่อคลินิกอยู่ในจำนวนสถานพยาบาล ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานนั้น ถือเป็นการขึ้นทะเบียนที่ไม่ถูกต้องตามประกาศ