
19 สิงหาคม 2568 พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยผลการประชุม ครม.วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เรื่อง “การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนกองทัพอากาศ และการชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Defence Offset)” โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
• คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนของกองทัพอากาศเดินหน้าต่อ โดยมีการ “ชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์” (Defence Offset) จากบริษัท Saab AB
• การจัดหาครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี
1. รอบคอบตามกฎหมาย – รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบกฎ ระเบียบ และขั้นตอนครบถ้วน เพื่อความโปร่งใสและถูกต้อง
2. ประโยชน์หลายมิติ – การชดเชยจาก Saab AB จะช่วยทั้งด้านความมั่นคง เสริมอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และยกระดับการศึกษาไทย
3. ทำงานร่วมกัน – กองทัพอากาศจะบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเกิดผลลัพธ์สูงสุดต่อสังคม
4. ประชาชนเป็นศูนย์กลาง – การลงทุนด้านความมั่นคงครั้งนี้ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์โดยตรงต่อการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตประชาชน
โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทัพอากาศพร้อมดำเนินการด้วยความโปร่งใส รอบคอบ และร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเสริมศักยภาพการป้องกันประเทศ แต่ยังเป็น การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน
ทางด้าน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ มีกำหนดเดินทางลงนามจัดซื้อกริพเพ่น ที่ประเทศสวีเดน วันที่ 25 สิงหาคมนี้
สำหรับมูลค่า Defence Offset หรือ Offset Policy การชดเชยทางเศรษฐกิจที่ไทยจะได้รับประมาณ 1 แสนล้านบาท จากโครงการจัดหากริพเพ่น E/F 1 ฝูง 12 เครื่อง มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท