
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายทิวา การกระสัง ทนายความ ได้ร่วมทีมทนายความผู้รับผิดชอบในคดีพิพาทที่ดินเขากระโดง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับตอบโต้กระทรวงมหาดไทยที่มีคำสั่งเพิกถอนเอกสิทธิ์ในที่ดินเขากระโดง โดยนายทิวาได้ใช้คำพูดตอบโต้อย่างรุนแรงกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี
18 สิงหาคม 2568 ที่สภาทนายความ ถนนพหลโยธิน นายภาคิน จินาภักดิ์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายภูมิธรรม เวชยชัย ได้เดินทางมายังสภาทนายความ เพื่อยื่นร้องเรียนมรรยาททนายความของนายทิวา การกระสัง ต่อคณะกรรมการสอบสวนมรรยาททนายความ
โดย นายภาคิน เปิดเผยว่า จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า นายทิวาได้ใช้คำพูดที่ก้าวร้าวและข่มขู่นายภูมิธรรม โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า จะฟ้องร้องดำเนินคดีให้นายภูมิธรรมถูกจำคุก 5,000 ปี และใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อว่านายภูมิธรรมอย่างรุนแรง
พฤติกรรมดังกล่าวของนายทิวา ถือว่าขัดต่อข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ 2529 ในเรื่องของการประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีและจริยธรรม รวมทั้งกระทำการอันเป็นการยุยงส่งเสริมให้มีการฟ้องร้องคดีกัน นายภูมิธรรม จึงมอบอำนาจให้ตนมาร้องต่อคณะกรรมการมรรยาททนายความเพื่อเอาผิดนายทิวา
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่สภาทนายความจะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อดำเนินการสอบสวนและแจ้งให้ทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง ส่วนระยะเวลาการสอบสวนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคู่กรณีว่าจะเข้ามาชี้แจงกับคณะกรรมการเมื่อไหร่
ส่วนของปลายทางการสอบสวนมรรยาททนายความ จะมีการลงโทษ 3 ระดับ คือ ภาคทัณฑ์ ,ห้ามการเป็นทนายความไม่เกิน 3 ปี และลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ซึ่งเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการมรรยาททนายความ ว่าดำเนินการพิจารณาลงโทษอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ก่อนหน้านี้นายทิวาได้ทำหนังสือจดหมายขอโทษไปยังนายภูมิธรรมแล้ว แต่ทำไมยังต้องมาร้องมรรยาททนายความอีก
นายภาคิน ระบุว่า นายภูมิธรรมรับทราบแล้วว่านายทิวาได้ทำหนังสือขอโทษและเข้าใจดีว่านายทิวาสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป แต่ความผิดที่นายทิวาทำสำเร็จแล้ว จึงเห็นควรที่ต้องร้องให้สภาทนายความพิจารณาเรื่องมรรยาททนายความกับนายทิวา
ส่วนจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งหรืออาญากับนายทิวาหรือไม่นั้น ตอนนี้นายภูมิธรรมยังไม่ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่าควรร้องเรื่องมรรยาททนายความก่อน อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการร้องมรรยาททนายความนั้น สามารถถอนคำร้องได้ แต่ขึ้นกับดุลพินิจของนายภูมิธรรมว่าจะพิจารณาอย่างไร
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมอีกว่า การยื่นมรรยาททนายความครั้งนี้นั้น เป็นการส่งนัยยะสื่อถึงฟ้องปิดปากไปยังฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหรือไม่ นายภาคิน ระบุว่า ขอให้เข้าใจว่านี่เป็นการยื่นมรรยาททนายความ ไม่ใช่เป็นการฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งหรืออาญา จึงไม่ใช่เป็นการยื่นเรื่องเพื่อปิดปากแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของผู้ที่ได้รับความเสียหาย