
4 สิงหาคม 2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีพบโดรนตรวจการณ์ในหลายพื้นที่ ซึ่งล่าสุดกองทัพบกมีการยืนยันว่า เป็นโดรนที่พบในจังหวัดสุรินทร์ของไทย จึงทำให้ประชาชนมีความกังวลและสับสนว่า ขณะนี้มีโดรนปะปนกัน แต่ที่พบจำนวนมากคือเป็นของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเราได้ทำการบันทึกไว้ทั้งหมด และกองทัพภาคที่2 ก็มีการรายงานเข้ามาตลอด มีภาพและพิกัดที่บินล้ำพื้นที่เข้ามา โดยวันนี้ (4ส.ค.2568) จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ศบ.ทก.ด้วย
ขณะเดียวกันยังพบว่ามีคนไทยบางส่วนที่บินโดรน ที่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าทำเพราะอะไร เนื่องจากปัจจุบัน กสทช. ก็มีการห้ามบินโดรนทั่วประเทศอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ พล.อ.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวระบุว่ามีโดรนจากไทยบินล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา ตนมั่นใจว่าเป็นการเห็นโดรนของฝั่งกัมพูชาที่บินกลับจากการตรวจการฝั่งไทย ซึ่งเป็นโดรนของเขาเอง กรณีดังกล่าวแสดงถึงวุฒิภาวะเมื่อเขาพูดเองก็เสียเอง
ส่วนฐานบินของโดรนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากบินมาจากฝั่งกัมพูชาจะต้องถูกสกัดที่ชายแดน หรือมีฐานบินในประเทศนั้น ขออนุญาตไม่พูดถึงรายละเอียด เพราะขณะนี้กองทัพอากาศดำเนินการอยู่
สำหรับการประเมินสถานการณ์ขณะนี้ถือว่ายังเปราะบางหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เปราะบางจากข่าวปลอม อย่างเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าทหารไทยจะปฏิบัติการและขอให้ชาวจังหวัดศรีสะเกษไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งกองทัพก็ยืนยันกับตนว่าไม่เป็นความจริง ตนก็เข้าใจว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะทราบข่าวปลอมนี้เช่นเดียวกัน จึงนำมาตั้งเรื่องว่ามีการเตรียมการ กัมพูชาก็ต้องเตรียมการเช่นเดียวกัน
ดังนั้นสักวันนึงอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจึงอยากฝากมวลชนทุกท่าน ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าในยามนี้ พวกเราต้องรวมใจกันเป็นหนึ่ง เพราะแค่ข่าวปลอมของกัมพูชา ก็ต้องนั่งแก้ปัญหากันทุกวันแล้ว และยังมาเจอข่าวปลอมของพวกเราอีก ตรงนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงหนักใจมาก
พล.อ.ณัฐพล ระบุอีกว่า เข้าใจดีว่าประชาชนเป็นห่วงอยากช่วย แต่การช่วยกันในสถานการณ์นี้คืออยากให้ฟัง ศบ.ทก.เป็นหลัก แม้จะยอมรับว่าข่าวสารอาจจะช้า แต่ต้องตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียเครดิตในนานาประเทศ ไม่เสียเครดิตกันเอง ศบ.ทก. พูดอะไรต้องใช่ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดอะไรออกไปแล้วไม่ถูกต้องก็จะค่อยๆขาดความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ สิ่งที่อยากขอสื่อมวลชนคือเมื่อมีการออกข่าวอะไรมาให้ตอบโต้ได้เลย เพราะสื่อไม่มีผลทางการ และหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของรัฐในการออกชี้แจง ซึ่งการตอบโต้กลับไปจะเป็นการช่วยรัฐได้ ไม่ใช่ว่า "มาลี" พูดมา แล้วสื่อมาด่ากองทัพเลยว่าทำไมไม่ตอบโต้ และหากพูดไปก็จะขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหากเป็นการต่อปากต่อคำกับคนแบบนั้น