
31 กรกฎาคม 2568 พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ อดีตโฆษกกระทรวงกลาโหม ให้มุมมองสงครามข่าวสารในช่วงเหตุปะทะชายแดน ไทย-กัมพูชา ผ่านเนชั่นทีวี ว่า
ข้อสังเกตส่วนตัว ประเทศกลุ่มสังคมนิยม ไล่ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น โซเวียต-จีน มีความเก่งสงครามข่าวสาร ซึ่งไม่ใช่ของใหม่ แต่มีมานานแล้ว
พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ อดีตโฆษกกระทรวงกลาโหม
เสธ.บัญชร ยกตัวอย่างชวนคิด สาเหตุที่สหรัฐอเมริกา แพ้ในสงครามเวียดนาม ทั้งที่อำนาจกำลังรบมหาศาลเทียบกันไม่ติด แต่รัฐบาลอเมริกัน ไม่สามารถตอบคำถาม คนอเมริกันได้ว่า ทำไมต้องเอาคนหนุ่มมาตายในสงครามเวียดนาม และความเชี่ยวชาญของประเทศสังคมนิยม ก็จับจุดอ่อนเรื่องนี้ เขาจะทำอย่างไรไม่รู้ แต่ว่ากลายเป็นจุดที่ใช้ความเชี่ยวชาญของเขา มาทำเรื่องนี้
ยกตัวอย่างอีกเรื่อง ตนค้นคว้าเรื่องสงครามใน สปป.ลาว โดยปี 2497 มีข้อตกลงที่เจนีวาว่า ดินแดนของลาวต้องเป็นกลางห้ามต่างชาติส่งกำลังเข้าไปแต่ในทางปฏิบัติ ฝ่ายโลกเสรีส่งกำลังเข้าไป ฝ่ายโลกสังคมนิยมก็ส่งกำลังเข้าไปรบกัน จะเรียกสงครามตัวแทนหรืออะไรก็แล้วแต่
แต่ทุกวันนี้ ผลที่ตามมา ที่ทหารไทยเข้าไปในลาวถูกกล่าวหาว่ารับใช้จักรวรรดินิยมอเมริกา แต่การสำหรับการเข้าไปของทหารเวียดนามเหนือที่เข้าไปรบในลาว กลับได้รับการยกย่องว่า ไปทำสงครามปลดแอก เพื่ออิสรภาพของคนลาว
เราอยู่ตรงกลางหรือพยายามเป็นกลางก็เหมือนกัน แต่ทำไมความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าเราได้ศึกษา พบว่า ต้องยอมรับว่ากลุ่มสังคมนิยมจะเก่งเรื่องสงครามข่าวสาร ผมพยายามค้นคว้าทำไมเขาเก่งเรื่องนี้ ผิดถูกอีกเรือง คือ ในขณะที่ กลุ่มโลกเสรี มีอาวุธเหนือกว่า แต่เขามีอาวุธน้อยกว่าต้องหาทางที่จะเอาชนะสงครามที่เป็นอาวุธได้
“ย้อนกลับมาดู ไทย – กัมพูชา อำนาจการรบเราเหนือกว่ากัมพูชา ฉะนั้น กัมพูชาจึงต้องคิดหาวิธีการมาสู้กับเรา จึงเป็นเรื่องที่เราต้องสู้กับเขาในสงครามข่าวสาร แต่สำหรับสงครามข่าวสารระหว่างเรากับเขาก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไม่เหมือนเอารถถังมาสู้ เขาก็สู้ไม่ได้ แต่สงครามข่าวสารไม่แน่ และเป้าหมายอยู่ตรงไหน คือ ประชาคมโลก ฉะนั้นเราอย่าได้เบาใจ “ เสธ.บัญชร กล่าว
ปล่อยข่าวเท็จบนเวทีโลก ชนะหรือไม่ ?
พล.อ.บัญชร กล่าวว่า ส่วนที่มองกันว่า กัมพูชาถ่ายทอดข่าวสารแทบจะเป็นเท็จส่วนใหญ่ ตรงนี้จะชนะในเวทีโลกได้หรือไม่ ตนมีเรื่องสองเรื่องจะเล่า ตนก็เคยเข้าใจอย่างนี้ สมัยรบกับคอมมิวนิสต์ ทั้งที่เราก็หวังดีอย่างโน้นอย่างนี้ ทำไมถูกรังเกียจจากประชาชน นักประชาสัมพันธ์ท่านหนึ่งไม่ขอเอ่ยนาม บอกว่า
“มันไม่สำคัญว่าคุณเป็นอย่างไร ความสำคัญอยู่ที่ว่าแล้วคนเขามองคุณอย่างไร” จริงไหม จุดอ่อนของคนทำดี ก็คือทำดีแล้ว แต่อย่าลืมว่า ทำดีหรือไม่ดี คุณตัดสินตัวเองนะ แต่คนข้างนอกตัดสินคุณว่าอย่างไรฉะนั้นอย่าประมาท
ชงไอเดียเสนอรัฐบาลระดมคนรุ่นใหม่ช่วยประชาสัมพันธ์
“ผมนึกถึงหนังเรื่องหนึ่ง 20 ปีแล้ว Wag the Dog (1997) แวชเดอะด็อก ที่ดัสติน ฮอฟแมน แสดง เรื่องนี้ ปกติหมาจะแกว่งหางใช่ไหม แต่เรื่องนี้ อเมริกันจะหาเหตุบุกประเทศหนึ่ง เขาจ้างนักสร้างหนังขึ้นมาแล้วให้ความต้องการว่า อเมริกันมีความชอบธรรมที่จะบุก
"ผมนึกอย่างนี้ ติดตามสถานการณ์จากคลิปต่างๆ มีเด็กอธิบายภาษาอังกฤษ ว่าคนไทยถูกรังแก เขมรทำก่อน ผมนึกอย่างนี้นะเป็นประโยชน์หรือไม่ไม่รู้
สิ่งที่รัฐบาลควรทำ ระดมนักคิดเหล่านี้ ไม่ต้องเปิดเผยก็ได้ ระดมความคิดเพราะผมเชื่อว่ามาถึงตอนนี้
คนไทยเชื่อว่า เราทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องไปโน้มน้าว แล้วมาช่วยกันสิ นักประชาสัมพันธ์คนไทย เดี่ยวนี้ หนังไทยเข้าออสการ์แล้ว บรรดาเด็กรุ่นใหม่ เก่ง ฝากคิดครับ คนไทยเก่ง โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ฝากคิด"