
30 กรกฎาคม 2568 สืบเนื่องศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 มีคำสั่งอนุญาตให้นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไป จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นครั้งสุดท้าย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 31 ส่วนหากกรณีผู้ถูกร้องไม่ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่า ผู้ถูกร้องไม่ติดใจที่จะยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 54 วรรคสาม นั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า ประเด็นที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในประเด็นปมคลิปเสียงนายฮุนเซน ว่า ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) (5) เพราะผลทางกฎหมาย ย่อมทำให้นางสาวแพทองธารฯ พ้นจากตำแหน่ง ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 167 วรรคหนึ่ง(1)
ประเด็นที่ถูกร้องว่า นางสาวแพทองธารฯ ผู้ถูกร้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยและวางบรรทัดฐานในคำวินิจฉัยที่ 21/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ปมคลิปเสียงนายฮุนเซน ที่ถูกปล่อยออกมา แตกต่าง กรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน ผลคดีอาจออกบวกหรือลบก็ได้
ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า ปมคลิปเสียงนายฮุนเซน ที่นางสาวแพทองธารฯ ยอมรับนั้น หมายถึงอะไร เพราะยังไม่ได้รับฟังข้อมูลจากฝ่ายผู้ถูกร้อง คลิปเสียงมีการตัดต่อ หรือตัดทอนข้อความหรือไม่ ตรงนี้เป็นประเด็นที่นางสาวแพทองธารฯต้องแก้ต่าง หากอ้างลอยๆ ว่า ความเห็นต่างเฉพาะในทางการเมือง อาจย่อมเกิดขึ้นได้ในระบอบประชาธิปไตย ทาง “รอด” โอกาสยังไปต่อได้ แต่ต้องมีพยานหลักฐานรองรับว่า เหตุใดระดับ ผู้นำรัฐบาล ที่สวมหมวก 2 คือ “ผู้นำรัฐบาล” ในฐานะฝ่ายการเมือง และ “หัวหน้าฝ่ายปกครอง” ทุกกระทรวง ทบวง กรม เหตุใดถึงพูดเช่นนั้น หากฟังได้ว่า เห็นต่างถึงขั้นเป็นฝ่ายตรงข้ามอริราชศัตรู ระหว่างผู้นำรัฐบาลกับทหารแม่ทัพภาค 2 โดยเอื้อประโยชน์ให้แก่กัมพูชา รับรองได้ว่า “ร่วง” จอดไม่มีแจว
ขั้นตอนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้
การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ใช้ระบบไต่สวน ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจพิจารณาพยานหลักฐานได้อย่างกว้างขวาง
หากศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายหรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้
ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยคดี โดยไม่ทำการไต่สวนก็ได้ ตามมาตรา 58 วรรคหนึ่ง แห่ง พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561
หากศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า ประเด็นคุณสมบัติรัฐมนตรีของผู้ถูกร้อง มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย หรือได้ความว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้ ศาลรัฐธรรมนูญย่อมมีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยได้ โดยไม่ต้องทำการไต่สวน ทำให้กระบวนการและขั้นตอนในกระบวนการพิจารณาคดีปกติหลายขั้นตอน ถูกตัดออกไป และทำให้ระยะเวลาในการพิจารณาคดีสั้นขึ้น และรวดเร็วกว่าคดีที่ต้องไต่สวนตามขั้นตอนปกติ
คดีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ปมดำรงตำแหน่ง 8 ปี สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ใช้ระยะระหว่างวันที่ 24สิงหาคม 2565 ถึงวันที่อ่านคำวินิจฉัย วันที่ 30 กันยายน 2565 โดยใช้ระยะเวลา 37 วัน
คดีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ปมดำรงแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ใช้ระยะระหว่างวันที่ 23 พ.ค.2567 วันที่อ่านคำวินิจฉัย วันที่ 14 สิงหาคม 2567 โดยใช้ระยะเวลา 83 วัน
คดีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ปมคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีฯปมบ้านพักหลวง ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ใช้ระยะระหว่างวันที่ 13 พ.ค. 2563 ถึงวันที่อ่านคำวินิจฉัย วันที่ 2 ธ.ค.2563 โดยใช้ระยะเวลา 203 วัน
แนวโน้มจากประเด็นคลิปเสียงและศาลรัฐธรรมนูญสั่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ศาลรับไว้พิจารณาเมื่อ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนเทียบเคียงได้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปมวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีและศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แนวโน้มว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย ใช้ระยะเวลา 30 - 45 วันนับแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ประมาณเดือนกันยายน 2568