svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“โรม” หนุนรัฐบาลชี้แจง-พาทูตลงพื้นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลง

“โรม” หนุนรัฐบาลชี้แจง-พาทูตมาเลย์-สหรัฐฯ-จีนลงพื้นที่สังเกตการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมต้องรุกการสื่อสารให้มากกว่านี้ หวั่น! พลาดท่ากัมพูชา

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ได้เห็นพ้องร่วมกันกับประเทศไทย ในการเจรจาที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ในการเจรจานั้น ประเทศไทยไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะประเทศไทย จำเป็นจะต้องอาศัยความชอบธรรมบนเวทีโลก และจะเห็นได้ว่า ทั้งจีน และสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเหตุปะทะครั้งนี้ด้วย ดังนั้น การหยุดยิงที่ประเทศไทยไปตกลง จึงมีความจำเป็น และมีความสำคัญ เพื่อรักษาชีวิตของทหาร และเมื่อตนไปลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ก็เห็นว่า ประชาชนเดือดร้อนจริง แม้จะเตรียมความพร้อมอย่างดี แต่เมื่อถึงเวลาจริงก็มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับแสนคน และข้อเท็จจริงที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงนั้น ประเทศไทยจะต้องรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอต่อมาเลเซีย และชาติต่าง ๆ ว่า กัมพูชากำลังพยายามกล่าวหาประเทศไทย ละเมิดการหยุดยิง จึงพยายามนำทูตไปลงพื้นที่ ดังนั้น ประเทศไทย ก็จะต้องดำเนินการแบบเดียวกัน และเชิญทูตมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีนมาพูดคุยชี้แจงสถานการณ์ เพื่อให้โลกเห็นว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดการหยุดยิงก่อน เพื่อให้ประเทศไทยมีความชอบธรรม และทั่วโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้รังแกกัมพูชา

 

ส่วนความไม่ใจไม่ได้ของกัมพูชา และการตอบโต้ข้อมูลข่าวสารของไทยที่มีความล่าช้านั้น นายรังสิมันต์ เห็นว่า จะต้องมีข้อมูลและน่าเชื่อถือ และมีคนกลาง รวมทั้งต้องรวบรวมข้อมูลให้เห็นพฤติกรรมของกัมพูชา ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศไทย เพราะกัมพูชาพยายามทำลายความชอบธรรมประเทศไทย และนำประเทศไทยไปใช้กลไกศาลโลก หากประเทศไทยเห็นว่า การเจรจาแบบทวิภาคีผ่านกลไกต่าง ๆ จะต้องแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลง เพื่อนำเป้าหมายของตนเองเป็นที่ตั้ง และการสื่อสารของไทย จะต้องทำให้มากกว่านี้ มิเช่นนั้น จะพลาดท่าเสียทีกัมพูชาได้

 

นายรังสิมันต์ ยังยอมรับว่า การสื่อสารของรัฐบาลช้ากว่าทุกองคาพยพ เพราะสถานการณ์ไปเร็ว และโดยหลักการรัฐบาลควรรู้จะเกิดอะไรขึ้นที่แนวหน้า จึงน่าจะมีเวลามากกว่าชาวเน็ต เพราะสิ่งที่สังคมไทยต้องการทราบว่า เมื่อกัมพูชาละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ หากรัฐบาลไม่สามารถตอบได้ หรือช้าไป ประชาชนก็จะจินตนาการร่วมกับความไม่ไว้วางใจที่เดิมมีอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐบาล จะต้องปรับการสื่อสารให้เร็ว และทันต่อสถานการณ์ มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ และจะต้องรุกปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ของกัมพูชาต่อ ที่ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่า กัมพูชาจะใช้อาวุธนี้ในการดำเนินการบั่นทอนเสถียรภาพอย่างไรต่อ

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของไทย ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาทำปฏิบัติการ IO นั้น นายรังสิมันต์ ยอมรับว่า ตนเองก็กังวล ซึ่งขณะนี้ มีปฏิบัติการณ์ข้อมูลข่าวสาร ที่กัมพูชาใช้อย่างเต็มที่ผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้น ประเทศไทยต้องรีบจัดการปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

ส่วนกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาใช้กองกำลังพิทักษ์ฮุนเซน หรือ Bodyguard Headquarters: BHQ มีความน่ากังวลหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ มั่นใจว่า ประเทศไทยน่าจะมีความพร้อมรับมือทุกรูปแบบ เพียงแต่วันนี้ไทยจะต้องแสดงให้โลกเห็นว่า ไม่ต้องการสงคราม แต่กัมพูชาต้องการ และประเทศไทยต้องการปกป้องชีวิตคนไทย แต่กัมพูชากลับใช้อาวุธ รุกล้ำอธิปไตยของไทย และโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน