svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"แพทองธาร" การันตีกัมพูชาเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน 100%

"แพทองธาร" การันตีกัมพูชาใช้ความรุนแรงก่อน 100% - ชี้สื่อเทศมีข้อบ่งชี้กัมพูชารู้เห็นจะยิงไทยก่อน - ให้ กต.พิจารณาฟ้อง ICC กัมพูชาอาชญากรรมสงคราม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการรับมือ และการช่วยเหลือของกระทรวงวัฒนธรรม ในการร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย ในการจัดการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ย้ำและยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ในนามรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีการแถลงไปเมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ต่อการกระทำของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ขัดต่อหลักสันติวิธี และหลักกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงขัดหลักมนุษยธรรมที่ประเทศไทยปฏิบัติมาโดยตลอด ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น เพื่อรักษาชีวิตของประชาชน จนกระทั่งฝ่ายกัมพูชายิงก่อน ตั้งแต่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

"แพทองธาร" การันตีกัมพูชาเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน 100% ช่างภาพ สุรสิทธิ์ รัศมีกิตติกุล

Nation Photo

นางสาวแพทองธาร ยังระบุว่า สำนักข่าวต่างประเทศ ได้มีข้อสังเกต และหลักฐานภาพถ่ายต่าง ๆ ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นผู้โจมตีก่อน และมีข้อสังเกตที่วันดังกล่าว นักเรียนไทยตามจังหวัดชายแดน ยังไปเรียนตามปกติ แต่ฝ่ายกัมพูชาได้สั่งหยุดเรียน ซึ่งก็จะต้องไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ตามที่สำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกต ที่หากฝ่ายไทยรับทราบจะมีการยิงก่อน คงมีการประกาศหยุดเรียน ดังนั้น ฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบหรือไม่ นักเรียนจึงหยุดเรียนกัน 

นางสาวแพทองธาร ยังยอมรับว่า แม้ตนเองจะปฏิบัตินายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ก็ได้รับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพราะยังคงเป็นห่วง และได้มีโอกาสพบคณะรัฐมนตรี จึงได้ติดตามกับพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยืนยันว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของไทยมีความพร้อม และไทยได้ใช้ F-16 ปฏิบัติการก็เป็นการตอบโต้ เพราะฝ่ายกัมพูชาได้เปิดการโจมตีถึงแหล่งชุมชนไทย จนเกิดผลกระทบต่อชีวิตประชาชนคนไทย พร้อมยืนยันว่า ทุกกลไกที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ รัฐบาล กองทัพและฝ่ายความมั่นคง ได้ประสานงานอย่างต่อเนื่อง และพิจารณาอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน และเหตุการณ์ต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจะพิจารณา และจะต้องพยายามอย่างถึงที่สุดในการปกป้องอธิปไตย เพราะไทยไม่เคยเริ่มโจมตีก่อน และที่ผ่านมาไทยยืนยันตลอดว่า ไม่ต้องการความรุนแรง แต่เมื่อความรุนแรงมาถึงไทยก็สู้ไม่ถอย และสู้เต็มที่เช่นเดียวกัน 

 

นางสาวแพทองธาร ยังระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงหลักฐานถึงความไม่ชอบธรรมของฝ่ายกัมพูชา ทั้งการละเมิดสนธิสัญญา และหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักสิทธิมนุษยชน และไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบการวางระเบิด ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ ไทยและกัมพูชา มีความร่วมมือในการลาดตระเวณเพื่อกู้กับระเบิดร่วมกัน ก่อนที่จะยุติไป และทหารของไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการตรวจสอบ ก็เป็นระเบิดที่วางใหม่ ซึ่งผิดหลักมนุษยชนอย่างยิ่ง และไม่มีประเทศใดกระทำเช่นนี้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีหลักฐานครบถ้วน และสื่อต่างชาติก็ได้รายงาน และประเทศไทยได้พูดความจริงมาโดยตลอดว่า ประเทศไทยไม่ใช้ความรุนแรง และความรุนแรงเริ่มต้นขึ้นโดยกัมพูชา 100% 

 

ส่วนฝ่ายไทยจะมีการยื่นเรื่องถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ข้อหาอาชญากรรมสงครามระหว่างประเทศต่อฝ่ายกัมพูชาหลังโจมตีพลเรือนไทยด้วยหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่า คงต้องให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปพิจารณาว่า มีเรื่องใดที่เหมาะสม และควรทำ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ก็ประสานเรื่องดังกล่าวอยู่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้รายงานการดำเนินการเป็นระยะ และอธิบายอย่างเต็มที่ พร้อมเชื่อว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะดำเนินการ ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ คงต้องสอบถามรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองคงยังไม่เหมาะสมที่จะพูดอะไร