svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นักวิเคราะห์ดาวเทียมชี้! หลักฐานความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา "ส่วนใหญ่" เริ่มจากฝั่งกัมพูชา

นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย ชี้หลักฐานว่าความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาส่วนใหญ่เริ่มจากฝั่งกัมพูชา พร้อมเผยไทม์ไลน์และสถิติเหตุการณ์ยกระดับความรุนแรง

KEY

POINTS

  • นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมชี้ว่า หลักฐานส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เริ่มยกระดับความขัดแย้งบริเวณชายแดน
  • ข้อมูลไทม์ไลน์เผยให้เห็นว่ากัมพูชามีการเสริมกำลังทหารและยุทโธปกรณ์หนัก เช่น รถถังและปืนใหญ่ เข้าสู่พื้นที่ก่อนเกิดการปะทะรุนแรง
  • สถิติการยกระดับความรุนแรงที่รวบรวมได้ พบว่าเกิดจากฝั่งกัมพูชาประมาณ 33 ครั้ง ขณะที่เกิดจากฝั่งไทย 14 ครั้ง

ในขณะที่สถานการณ์การปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงทวีความรุนแรงและนำไปสู่การประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)

ล่าสุด นายนาธาน รูเซอร์ (Nathan Ruser) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมจาก Australian Strategic Policy Institute (ASPI) ซึ่งเป็นสถาบันวิเคราะห์นโยบายเชิงยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ

นายรูเซอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากการวิเคราะห์สถานการณ์ในพื้นที่ความขัดแย้งหลายแห่งทั่วโลก อาทิ ยูเครนและเมียนมา และข้อมูลของเขามักถูกนำไปอ้างอิงโดยสื่อใหญ่ๆ หลายครั้ง ได้ระบุจากการตรวจสอบข้อมูลที่ละเอียดว่า เหตุการณ์ยกระดับความขัดแย้งส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา

นักวิเคราะห์ดาวเทียมชี้! หลักฐานความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา "ส่วนใหญ่" เริ่มจากฝั่งกัมพูชา

ไทม์ไลน์ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น

นาธาน รูเซอร์ ได้เผยแพร่ไทม์ไลน์และข้อสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การปะทะเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของกัมพูชาในการยกระดับสถานการณ์:

  1. การเสริมกำลังก่อนหน้า: ทหารกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่อย่างเห็นได้ชัดก่อนเกิดการปะทะเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในรอบนี้ และกัมพูชายังได้เร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์นั้นด้วย โดยนายรูเซอร์ได้แนบแผนที่ความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 กรกฎาคม เพื่อแสดงให้เห็นภาพประกอบ
  2. การเคลื่อนกำลังพลอย่างรวดเร็ว: การส่งหน่วยรบพิเศษและหน่วยยุทธศาสตร์เข้าสู่แนวหน้าอย่างรวดเร็วและเข้มข้นในวันรุ่งขึ้นหลังการปะทะเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งรวมถึงรถถัง ปืนใหญ่ และการป้องกันภัยทางอากาศ สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากองบัญชาการกัมพูชาน่าจะเตรียมพร้อมสำหรับการยกระดับการปะทะ และมีการตอบสนองในทันที
  3. การยึดครองพื้นที่ชั่วคราว: มีเหตุการณ์ที่กองร้อยของไทย (ซึ่งมีการจัดระเบียบและขนาดใหญ่กว่า) เข้ายึดครองตำแหน่งในกัมพูชาเป็นการชั่วคราว (90 นาที) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน แสดงให้เห็นว่าการยกระดับความรุนแรงมาจากหลายฝ่ายเช่นกัน
  4. การสกัดกั้นการลาดตระเวน: หน่วยลาดตระเวนขนาดใหญ่ของกัมพูชา "สกัดกั้น" การลาดตระเวนของไทยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน และยังคงดำเนินการลาดตระเวนในสิ่งที่ไทยยืนยันว่าเป็นดินแดนของตนเอง
  5. การเคลื่อนย้ายอาวุธขนาดใหญ่: การเคลื่อนย้ายกระสุนขนาดใหญ่ไปยังชายแดนจากกัมพูชาในช่วงปลายเดือนมิถุนายน นายรูเซอร์ระบุว่าน่าสนใจที่จะทราบว่าในเวลานั้นกองทัพไทยกำลังเตรียมการอย่างไรบ้าง แต่เขายังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้

สถิติเหตุการณ์ที่ถูกยกระดับ

จากการรวบรวมข้อมูลอย่างคร่าวๆ ในสเปรดชีตของเขา นายรูเซอร์พบว่า

  • มีเหตุการณ์ที่ถูกยกระดับโดยกัมพูชาประมาณ 33 เหตุการณ์
  • มีเหตุการณ์ที่ถูกยกระดับโดยไทยประมาณ 14 เหตุการณ์
  • และมีเหตุการณ์ที่ลดความรุนแรงร่วมกัน 9 เหตุการณ์

หากจำกัดข้อมูลเฉพาะช่วงก่อนวันที่ 28 พฤษภาคม สถิติคือ กัมพูชา 10 เหตุการณ์, ไทย 3 เหตุการณ์ และลดความรุนแรงร่วมกัน 5 เหตุการณ์

---

การปะทะล่าสุดและมุมมองจากกัมพูชา

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม การปะทะได้เริ่มต้นขึ้นประมาณ 8.00 น. ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (Ta Muen Thom Temple) มีการโจมตีด้วยปืนใหญ่ในวงกว้าง ทำให้ทหารและพลเรือนไทยเสียชีวิต แต่จำนวนผู้เสียชีวิตยังมีความคลาดเคลื่อนกันเมื่อเทียบกับสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก

ด้าน ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ส่งจดหมายเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าแทรกแซงในสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นการ "รุกรานทางทหารโดยตั้งใจ" โดยทหารไทยตามแนวชายแดนที่ติดกับกัมพูชา โดยอ้างว่าไทยรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุและมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ประณามไทยว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และละเมิดหลักการต่างๆ ที่ยึดถือโดยสหประชาชาติและกฎบัตรอาเซียน ย้ำว่ากัมพูชาป้องกันตนเอง เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและบูรณภาพแห่งดินแดน และเรียกร้องให้หยุดความเป็นปรปักษ์ในทันที

ข้อมูลจากนายรูเซอร์ให้มุมมองเพิ่มเติมต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่ซับซ้อนนี้ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของกัมพูชาในการยกระดับความตึงเครียดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

สามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลจาก นาธาน รูเซอร์ ได้ที่ Nathan Ruser (@Nrg8000) / X