
9 กรกฎาคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังรายการ “Exclusive Talk “55 ปี NATION ผ่าทางตันประเทศไทย” ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เป็นเรื่องของ 2 ประเทศ ที่ต้องคุยกัน มีกลไกพูดคุยอยู่ หลังจาก JBC จบไปแล้ว ก็จะมี GBC แล้วก็ RBC ที่ต้องเจรจา ส่วนที่เขาไม่ยอมรับการเจรจา ก็รอกันไป ไม่มีปัญหา ยืนยันไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน ไม่ยอมก็คือยังไม่จบเท่านั้นเอง ส่วนที่จะพาไทยขึ้นศาลโลก ก็ให้เขาไปข้างเดียว เราไม่เข้าด้วย
เมื่อถามว่า จะซ้ำรอยกลับกรณีเขาพระวิหารหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย เป็นคนละส่วนกัน คนละจุดกัน คนละข้อพิพาท
เมื่อถามว่าการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชาไม่ได้ จะมีผลต่อที่ปรึกษาประธานอาเซียนหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า "ไม่หรอกครับ เราอยากแก้ปัญหา ต้องหันหน้าเข้าหากัน ถ้าไม่หันหน้าเข้าหากันแก้ยาก"
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้คนคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณกับสมเด็จฮุนเซน จะช่วยให้สถานการณ์ไทย-กัมพูชา คลี่คลาย ตอนนี้ เลิกหวังได้แล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ยังงงอยู่ คบกันมานานมาก ประวัติยาวนานหลายเรื่อง ก็ยังงงว่า มันเกิดเรื่องนี้ได้ยังไง และไม่รู้จะทำยังไง
เมื่อถามว่า ความไม่เข้าใจกันระหว่างนายทักษิณกับสมเด็จฮุนเซน เกิดขึ้นจากประเด็นเกาะกูดหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เกาะกูดไม่มีปัญหา อยู่ในสนธิสัญญาชัดว่าเกาะกูดเป็นของไทย เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลย
"ปัญหาชายแดนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกมี ไม่มีประเทศไหนไม่มีปัญหาชายแดนกัน แต่เขาไม่ค่อยเอามาเป็นเรื่องใหญ่ เขาก็ถือว่าอยู่ร่วมกันไปไม่เป็นไร เพราะชาวบ้านที่ชายแดนเขาก็พูดคุยกันข้ามไปมาหาสู่กัน ก็เหมือนเป็นเพื่อนเป็นญาติกันอยู่ไม่มีอะไรเดือดร้อน แต่วันนี้ถ้าเขาจะเอาเรื่องชายแดนเป็นเรื่องใหญ่ เราก็ขอไม่ใส่ใจด้วย และปัญหาที่เขาอาจจะโกรธก็คือเรื่องชายแดน ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับกาสิโน ที่คนไทยเข้าไปเล่น คนไทยเสีย ปีๆนึงเสียไป 2-3 พันล้าน แล้วก็ยังมีเรื่องของ Call Center ที่โดนหลอกไปเยอะ เราก็ต้องจัดการเพื่อ protect คนไทยของเรา เมื่อมันเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง"
เมื่อถามว่า เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุวันนี้เลยหรือไม่ว่า กาสิโน จะทำให้รัฐบาลเจอกับอุปสรรคหลายอย่าง นายทักษิณ กล่าวว่า" ไม่เกี่ยว บังเอิญว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่สนับสนุนอยู่แล้ว เขาสนับสนุน Entertainment Complex ที่ไม่มีกาสิโน จึงแนะนำว่าให้บริษัทชิโนไทยไปลงทุนแล้วกัน ไม่มีใครลงทุนหรอก"
เมื่อถามว่า ปัญหาที่รุมเร้า ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายกฯ จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์นี้ไปได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า "มันจะผ่านไปเอง ก็ทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างก็จะผ่านไป ไม่ต้องไปกังวล" ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ ก็ไม่เป็นไร ว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่ต้องกังวล
เมื่อถามว่า เมื่อสักครู่ที่เล่าบนเวทีบอกว่า ฮุนเซนโทรหานายกฯ เป็นการส่วนตัว ทำไมถึงมี นายเคลียง ฮวด ด้วยในเสียง นายทักษิณ หันไปถามนายแพทย์พรหมมินทร์ ก่อนจะได้คำตอบว่า เป็นการโทรประชุมสายกัน 3 สาย
ส่วนนายกฯ พูดไปว่าแม่ทัพภาค 2 เป็นคนละฝ่ายกับเรา นายทักษิณ อธิบายว่า "เขาได้รับข้อมูลว่า ความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน มากกว่าไม่ได้เป็นเรื่องคนละฝ่าย เขาไม่ได้อธิบายความ ไม่มีเรื่องอื่น"
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า เรื่องนี้ทำให้คะแนนนิยมของ นางสาวแพทองธาร ตก นายทักษิณ ย้อนกลับว่า "เดี๋ยวสื่อเสนอให้ถูกต้องมันก็จะขึ้นมาเอง"
นายทักษิณ ยังกล่าวถึงการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่ขณะนี้ก็มีการไล่ล่า "ก๊ก อาน" ว่า ตนยังไม่รู้จัก "ก๊ก อาน" เลยว่าคือใคร มารู้ตอนหลัง บอกเป็นเจ้าของตึก 25 ชั้น ชื่อ "ก๊ก อาน" รู้เท่านั้น ไม่เคยเห็นหน้า ส่วนที่สมเด็จฮุนเซน พูดคือ เขาหมายถึง เขาสนิทกับตนเองมากกว่า "ก๊ก อาน" ให้มาสอบผมแทน
เมื่อถามถึงกรณีมีนักการเมืองที่ไปเปิดบัญชีและซุกทรัพย์สินไว้ที่กัมพูชา มีการทาให้เปิดชื่อ นายทักษิณ กล่าวว่า เปิดชื่อได้เลย อยากให้เปิด จะได้รู้ ตอนที่ตนเองไม่ออกมาพูดอะไร ก็มีข้อสงสัยว่าไปฝากทองไว้ "ตอนเช้าที่ผมนอนพักบ้านฮุนเซน ผมก็ถ่ายทุกเช้า ถ้าเป็นทองได้ก็คงเป็นทองที่ฝาก ไว้ทุกเช้า" ก่อนจะปฎิเสธว่า ส่วนตัวไม่รู้จริงๆ ว่า "มีนักการเมืองคนไหน ไปเปิดบัญชีที่เขมรบ้าง เพราะในชีวิตตนเอง ไม่เคยเปิดบัญชีที่เขมรเลย" และไม่กลัวว่า สมเด็จฮุนเซนจะปล่อยอะไรเลยอีกหรือไม่ด้วย