“ฮั้ว สว.” เรียกสอบ “ล็อต 8” เส้นทางเงินโยง 24 จว. ค่อนข้างชัดเจน

8 กรกฎาคม 2568 อีกด้านหนึ่ง ยังมีการเดินหน้า “คดีฮั้ว สว.” ซึ่งแม้ข่าวตามหน้าสื่อจะเงียบไป แต่ในทางลึกของการดำเนินคดี ไม่ได้เงียบ หน้างานหลักยังอยู่ในชั้น คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ซึ่งรับผิดชอบดำเนินคดีตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 

ล่าสุดต้องบอกว่า อยู่ในขั้นตอนเรียกสอบ “ล็อตที่ 8” ซึ่งเป็นทั้งพยาน และผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด

โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ ออกหมายเรียก หรือ “หนังสือแจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหา” ทั้ง สว. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สส. และรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งสิ้น 7 ล็อต 162 คน 

ขณะนี้มีการเรียก “ล็อตที่ 8” รวม 7 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการฮั้ว มีเส้นทางเงินเชื่ือมโยงค่อนข้างชัดเจน เกี่ยวพันกับขบวนการฮั้ว สว. 24 จังหวัด และมีเส้นเงิน กับความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “คนการเมืองจากพรรคการเมืองใหญ่” 

สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ ได้เรียกพยานและผู้ถูกกล่าวหากลุ่มนี้ เข้าให้ปากคำแล้ว 3 รายจาก 7 ราย สัปดาห์นี้จะเรียกที่เหลือ แต่ทั้ง 3 ราย ให้การภาคเสธ โดยบอกว่ามีธุรกรรมโอนเงินจริง แต่เป็นการโอนในเรื่องทั่วๆ ไป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก สว. 

ชงฟัน “7 ล็อตแรก” จับตา DSI ชิงแจ้งอาญา 

สำหรับกระบวนการตรวจสอบพยานหลักฐานในกลุ่มที่ถูกออกหมายเรียกไปก่อนหน้านี้ และทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ ได้สรุปสำนวนเสนอสำนักงาน กกต. รวมถึงเลขาธิการ กกต. ไปจำนวนหนึ่งแล้ว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนเสนอสำนวนไปยังคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง 

จากนั้นคณะอนุกรรมการฯ จะส่งเรื่องให้ กกต.ชุดใหญ่เพื่อชี้ขาด หาก กกต.ชุดใหญ่เห็นว่าข้อกล่าวหามีมูล ก็จะส่งฟ้องต่อศาลฎีกา และผู้ถูกกล่าวหาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวทันที 

มีรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่า สำนวนคดีฮั้ว สว. ในส่วนที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ รับผิดชอบ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือก สว. จะครบเวลา 1 ปี ในวันพุธที่ 9 ก.ค.ที่จะถึงนี้ 

หาก กกต.ชุดใหญ่ยังไม่ชี้มูล ดีเอสไอ อาจถือว่าพ้นเวลา 1 ปีแล้ว อาจตัดสินใจแจ้งข้อหา “ฟอกเงิน” กับ สว.และบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน เพื่อดำเนินคดีอาญาฐาน “ฟอกเงิน” ในส่วนที่ดีเอสไอ มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบทันที