21 มิถุนายน 2568 แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ตึงเครียดไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการทำสงครามจิตวิทยาของ “สมเด็จฮุนเซน” และบุคคลสำคัญในรัฐบาล ซึ่งออกตัวแรงมากในความขัดแย้งนี้
แหล่งข่าววิเคราะห์ว่า สมเด็จฮุนเซน เป็นผู้กำหนดแผนการ ยุทธศาสตร์ จังหวะก้าว และการเดินเกมทั้งหมด
ขาที่หนึ่ง - ลากไทยไปทำศึกนอกประเทศ ซึ่งไทยไม่ถนัด และมีจุดอ่อน กัมพูชามีจุดแข็งกว่า จากการมีเจ้าอาณานิคมเป็นฝรั่งเศส จึงลุยฟ้องศาลโลก และอาจไปต่อถึงยูเอ็นเอสซี (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ)
ขณะเดียวกัน ก็ไม่ผ่อนเล่นเกมในภูมิภาค ในกรอบอาเซียน แม้ “อดีตนายกฯทักษิณ” จะเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน แต่ สมเด็จฮุนเซน ก็ยังส่งสัญญาณผ่านมาเลเซีย ส่งถึง ประธานอันวาร์ ให้หยิบยกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไปพิจารณาและเข้ามามีบทบาทแก้ไข โดยไม่สนใจกลไกทวิภาคี
กิจกรรมการยั่วยุจะยังคงมีอยู่ต่อไป เพื่อล่อให้ไทยตกหลุมพราง ใช้ความรุนแรงก่อน เมื่อใดที่ไทยพลาด ก็จะถูกขยายผลไปร้องยูเอ็นเอสซี เพื่อบีบไทยเข้าสู่ศาลโลก หรือถ้าไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ก็จะใช้กลไกยูเอ็นเอสซี กดดัน หรือออกมาตรการคว่ำบาตรไทย ซึ่งจะกลายเป็นแต้มต่อของกัมพูชา
ขาที่สอง - ป่วนไทยให้เกิดความวุ่นวายภายในประเทศ
**วิธีการเริ่มจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ ตามด้วยปล่อยภาพลับถึงห้องนอนในบ้าน ตอกย้ำความสัมพันธ์
**ภาพลับ คลิปลับ ที่ตอกย้ำความสัมพันธ์ใกล้ชิดเกินงาม เกินพอดี จะถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ
**แต่ถ้ารัฐบาลอุ๊งอิ๊งอยู่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนนายกฯ ก็จะเกิดสุญญากาศ และความวุ่นวาย
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคง บอกว่า ยุทธศาสตร์ของฮุนเซน เดินสองขา และกำลังปั่นหัวคนไทย แต่ทางแก้ไม่ใช่แบบที่รัฐบาลอ้างเพียงว่า ให้สามัคคีกันไว้ แล้วโยนบาปให้กัมพูชาอย่างเดียว
เนื่องจากจุดเริ่มต้นของปัญหา มาจากตัวนายกฯ คำสนทนา และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเกินพอดี ฉะนั้นทางแก้ที่ดีที่สุด คือเปลี่ยนตัวนายกฯ เปลี่ยนแกนนำรัฐบาล ถ้าเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้การจัดการปัญหากัมพูชาได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนมากขึ้น ว่าไม่มีวาระซ่อนเร้น หรือประโยชน์ทับซ้อน