ด่วน! กัมพูชา ยอมถอย ตอบรับปรับกำลังทหาร เหมือนปี 2567 - กลบคูเลต

จากสถานการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ในพื้นที่ชายแดน ไทย - กัมพูชา บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่ามีทหารเสียชีวิต 1 นาย เมื่อเช้ามืดวันที่ 28 พฤษภาคม 2568

 

โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนการเรียกร้องสิทธิพิพาทเรื่องเขตแดน ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด

 

ขณะที่ฝ่ายไทยเดินหน้าใช้กลไกทวิภาคีในการเจรจา JBC แต่ขณะที่กัมพูชา เตรียมฟ้องศาลโลก หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น

 

นอกจากนี้ ฝ่ายทหารกัมพูชามีการตรึงกำลังและไม่ยอมถอยออกจากจุดพิพาท รวมทั้งมีการเคลื่อนกำลังพลในพื้นที่ในลักษณะผิดปกติ

 

ส่งผลให้กองทัพฝ่ายไทยเริ่มใช้มาตรการ จากเบาไปหาหนัก โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ลงนามคำสั่งกองทัพบก ที่ 806/2568 เรื่อง ควบคุมการเปิด - ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 โดยผู้บัญชาการกองกําลังบูรพา และกองทัพภาคที่ 2 โดยผู้บัญชาการกองกําลังสุรนารี ที่มีแนวเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา พิจารณากำหนดเงื่อนไขตามความเหมาะสม

 

ล่าสุด วันที่ 8 มิถุนายน 2568 แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ยอมรับว่า ตั้งแต่รัฐบาลและกองทัพบกไทย มีมาตรการต่างๆเกี่ยวกับพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมา ก็ยังมีการสื่อสารกับทางกัมพูชาอยู่เรื่อยๆ จนล่าสุด ทางกัมพูชาได้ยอมถอย โดยยอมรับเรื่องการปรับกำลังกลับไปเหมือนปี 2567 ตามที่รัฐบาลไทยเสนอแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

ส่วนมาตรการที่กองทัพบกได้วางไว้ โดยเฉพาะเรื่องการเปิด-ปิด ด่านชายแดนต่างๆ ตอนนี้ยังดำรงต่อไปอีกระยะ จากนั้นค่อยมาประเมินการปฏิบัติอีกครั้ง

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า วันนี้ เวลา10.00น. ที่บริเวณชายแดนช่องบก ทหารฝ่ายกัมพูชา ได้ติดต่อมายังกองกำลังสุรนารี เพื่อขอเจรจา โดยทางกองกำลังสุรนารี ได้รายงานไปยัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รายงานไปยัง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) เพื่อขออนุมัติในการเข้าไปพูดคุย โดย ผบ.ทบ. ได้อนุมัติให้กองกำลังสุรนารี จัดทหารเข้าไปพูดคุย ซึ่งได้ข้อยุติว่า กำลังทหารทั้งสองฝ่าย จะถอยกลับไปยังจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 

 

พร้อมทั้งให้ฝ่ายกัมพูชาปิดกลบคูเลต ปรับพื้นที่อยู่ในสภาพเดิม ทำให้ปัจจุบันกองกำลังทั้งสองฝ่าย ได้ถอยกำลังกลับไปยังจุดเดิมแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ให้จัดเจ้าที่ทหารทั้งสองฝ่ายเข้ามาพูดคุยบริเวณจุดดังกล่าว สัปดาห์ละ 1 ครั้ง