svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

พลิกแฟ้ม"คดีฟอกเงิน"สหกรณ์คลองจั่น ทำไม"ณฐพร โตประยูร" จึงโดนเบิ้ลโทษ

พลิกแฟ้ม"คดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น" เหตุใด ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาอีก เมื่อ อัยการฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "ณฐพร โตประยูร "และบุตรชาย ที่สำคัญ "ณฐพร" นักร้องตัวตึงที่กำลังไล่บี้"คดีฮั้วเลือกสว." ไปถึงการหวังผลเอาผิดล้ม"ภูมิใจไทย" ชวนพินิจอย่างยิ่ง  

ความฉาวโฉ่คดีโกงเงินและฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว วงเงินกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท และใครบางคนคดีนี้ได้รับเงินทอนจากการฟอกเงินกว่า 249 ล้านบาทนั้น หากอ่านนัยทางกฎหมายที่อัยการเสนอให้ศาลพิจารณาไม่ให้ประกันตัวจำเลยและเสนอบทลงโทษทางกฎหมายเป็นสองเท่ากับจำเลยบางคน สื่อความถึงอะไรและทำไมคดีนี้โดนดองถึงแปดปี
 

“นายณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานนะนักร้องเรียนทางการเมืองระดับแถวหน้าเมืองไทยนั้น วันนี้ชายคนนี้น่าจะปิดฉากชิวิตการร้องเรียนลงแล้ว โดยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณฐพรและนายรัฐสิทธิ์ โตประยูร บุตรชาย  เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก   เพราะสำนักงานอัยการสูงสุด สั่งสอบสวนกรณี ”การดองคดีแปดปี”  คือคดีฟอกเงินขายที่ดิน สหกรณ๊เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 477 ล้านบาท หลังจากที่อัยการฯส่งหนังสือ 2 ฉบับ ถึงอธิบดีดีเอสไอ ให้ติดตามตัว 'นายณฐพร ' ส่งฟ้องศาลฯ ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ 15 ปี ในวันที่ 15 มิ.ย นี้
 

คดีนี้ย้อนความและเจาะรายละเอียดที่น่าสนใจได้ว่า  นายศุภชัย ศรีศุภอักษร หนึ่งในจำเลย โดยในช่วงที่นายศุภชัยเป็นประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ร่วมกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ระหว่างเดือนม.ค. 2551-ธ.ค. 2555  โดยนายศุภชัยกับพวก ซึ่งดำรงตำแหน่งในสหกรณ์ฯ  หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ แบ่งหน้าที่กันทำโดยทุจริต  แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้.คือ.ร่วมกันจัดทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์กับสมาชิกสมทบ หรือผู้กู้ 28 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,858,440,000 บาท โดยไม่มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยไม่มีการรับชำระหนี้เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจากลูกหนี้ที่กู้ยืมเงิน 
 
สัญญากู้ยืมเงินเท็จดังกล่าว เพื่อปกปิดการทุจริต และมีการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อตกแต่งบัญชีของสหกรณ์ ให้มีผลประกอบการกิจการที่มีผลกำไรสุทธิปรากฏในงบการเงินและงบดุลของสหกรณ์ ทั้งที่ความจริงผลประกอบการของสหกรณ์ขาดทุนมาตลอด ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ไม่สามารถประกอบกิจการได้

ช่วงวันที่ 15 มิ.ย.2553 -17 ก.ย.2553 ต่อเนื่องกัน นายศุภชัยกับพวกซึ่งยังไม่ได้นำตัวมาฟ้อง(โดยวันที่5มิย.นายณฐพรและบุตรชาย  ในฐานะจำเลยในคดีนี้ได้ไปที่ศาล)ได้ร่วมกันกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนอันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  โดยพบว่า นายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารพาณิชย์เพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนออกจากสหกรณ์ฯเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นบัญชีของผู้มีชื่อ อันเป็นการสมทบกันฟอกเงิน เปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่ได้ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น เพื่อปกปิดหรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้งการจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

ณฐพร โตประยูร  อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
 
ต่อมาคณะพนักงานสืบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ ปปง.มีความเห็นว่าพฤติการณ์ของนายศุภชัยกับพวก เป็นการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ก่อนมีคำสั่งให้อายัดที่ดิน 36 แปลง ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน    นายศุภชัยและพวกโอนเงิน  249,784,489 บาท ที่ได้รับแคชเชียร์เช็คมาจากผู้ซื้อที่ดินโดยโอนเงินผ่านระบบธนาคารโอนเข้าบัญชีนายศุภชัย ก่อนโอนเงินผ่านระบบธนาคารเพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนายณฐพร นายรัฐสิทธิ์กับพวก หรือให้จำเลยทั้งสองกับพวกรับเงินสดหรือรับโอนเงินไปอันเป็นการสมคบการฟอกเงิน
 
ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะโอนเงินให้แก่พวกของจำเลยทั้งสอง ซึ่งยังหลบหนีไม่ได้นำตัวมาฟ้อง จึงเป็นการร่วมกันโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือจะทำการด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานนั้นอันเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินการกระทำของจำเลยตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้องเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 9 ,10, 60 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 และขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 สองเท่าตามกฎหมายด้วย
 
กรณีนี้มีข้อมูลว่า ล่าสุดนายณฐพรและนายรัฐสิทธิ์ ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งยกคำร้องของทั้งคู่ ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ  “โดยศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองกับพวกแบ่งหน้าที่กันทำ กระทบต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะหลบหนีจึงไม่อนุญาต”
 
แปลว่านายณฐพร/บุตรชาย ที่เคยใช้เทคนิคทางกฎหมายประวิงเวลาคดีนี้มาหลายปี แต่ตอนนี้นายณฐพรเข้ามุมอับและน่าพินิจลงไปอีกว่าการที่ศาลวินิจฉัยไม่ให้ประกันตัวนั้น น่าจะหมายความว่า คดีนี้มีหลักฐานที่แสดงว่าจำลยกระทำผิดชัดแจน   อีกทั้งการที่อัยการเสนอเพิ่มอัตราโทษนายณฐพรเป็นสองเท่าตามกฎหมาย แปลว่า ในช่วงนั้นนายณัฐพรใช้ตำแหน่งหน้าที่คือ”ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน”ในการแสวงหาประโยชน์อันมิชอบอีกด้วย
 
การที่กระบวนการยุติธรรมเดินเครื่องในคดีนี้หลังดองมาแปดปีนั้น แม้จะมาล่าช้าแต่ก็ยังดีกว่าเพราะหากปล่อยค้างคาไว้คดีจะขาดอายุความและคนกระทำผิดปราศจากมลทินโดยทันที.....แต่ต้องเพ่งพินิจอีกชั้นด้วยว่า การที่ดีเอสไอไม่ขยับตัวในคดีนี้จนกระทั่งอัยการส่งหนังสือสองครั้งจี้ให้ดีเอสไอนำตัวนายณฐพรและบุตรชายไปศาลนั้นต้องรอฟังกันชัดๆอีกครั้งว่าทำไมดีเอสไอ ขยับตัวช้าในกรณีนี้และจะมีอะไรแปร่งๆปรากฏหรือไม่....
  ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน

หากย้อนประวัติของชายคนนี้จะพบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชายคนนี้ขยับร้องเรียนหลากวาระต่อศาลรัฐธรรมนูญและกกต.คือ


พ.ค.2562 ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่และคดีอิลูมินาติ ข้อหาล้มล้างการปกครอง มติ ศาลยกฟ้อง


ก.ค.2562 ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ข้อหาล้มล้างการปกครอง มติ ศาลยกฟ้อง


ม.ค.2563 ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ กระทำผิดพรป.พรรคการเมือง มาตรา92(2) ข้อหาปฏิปักษ์การปกครอง มติ ศาลยกฟ้อง


ก.พ.2564 ยื่นยุบพรรคก้าวไกล กระทำผิดสิบประเด็นและช่วยประกันตัวผู้ชุมนุมกลุ่มสามนิ้ว ข้อหาปฏิปักษ์การปกครอง มติ กกต.ยุติคำร้อง


เม.ย. 2568  ร้องขอให้เอาผิดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบปล่อยให้มีการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภาเละยื่นอุทธรณ์ มติศาลยกคำร้อง


พ.ค.2568 ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ความผิดฮั้วเลือกสว. มติ.....

หากพินิจการขยับร้องเรียนทางการเมืองตามช่วงเวลาข้างต้น น่าพินิจว่าการที่นักร้องเรียนคนนี้ยื่นต่อองค์กรต่างๆนั้น ชายคนนี้มีหลักฐานชัดเจน /ใช้เจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ หรืออาจมีความมุ่งหวังให้เกิดความไม่มั่นคงทางการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย!?! เพราะมติของการร้องเรียนต่างๆนานาปรากฏชัด!?!
 
ภาวะเช่นนี้ สังคมไทยน่าจะขาดสีสัน จากนักร้องเรียนตัวตึงชื่อ ณฐพร โตประยูรไปโดยปริยาย