svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ” เตรียมหารือ สว.กำหนดรูปแบบชี้แจงอนุฯ กกต.

“พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ” เตรียมหารือ สว.กำหนดรูปแบบชี้แจงอนุฯ กกต.ก่อน 19-20 พ.ค.นี้ - ย้ำ สว.พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมขอโทษให้สัมภาษณ์พาดพิง กกต.

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา แถลงภายหลังเมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชน กล่าวหา กกต.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า ตนต้องขอโทษไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.และขอโทษไปยังสังคม ที่อาจเข้าใจผิดว่า ตนดูเป็นคนก้าวร้าว ไม่เคารพองค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะ กกต.เพราะตนไม่ทราบมาก่อนว่า สื่อมวลชนจะมีการบันทึกเสียง และไม่ได้มีการแจ้งตนเองล่วงหน้า มิเช่นนั้น ตนก็จะใช้คำพูดอีกอย่างหนึ่ง จึงได้พูดคุยกันไปอย่างธรรมดา ซึ่งตนเองไม่ได้มีเจตนาก้าวร้าว หรือทำให้องค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบต้องชะงัก หรือติดขัด

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ยังย้ำด้วยว่า ทุกเรื่องตน และ สว.ทุกคนพร้อมพิสูจน์ทุกกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย และโปร่งใส รวมถึงการชี้แจงกับอนุกรรมการสืบสวนของ กกต.หรือส่วนที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ซึ่งตนก็เป็นคนหนึ่ง ที่ถูกหมายเรียก และตนเองก็เป็นอดีตตำรวจ แต่ในหมายเรียกจะต้องมีการชี้แจงประเด็นว่าจะสืบสวนประเด็นใดบ้าง ไม่ใช่เพียงแจ้งข้อกล่าวหา และไม่ระบุถึงรายละเอียด รวมถึงยังระบุว่า จะไปให้ถ้อยคำหรือไม่ก็ได้ โดยหลังจากนี้ ตนจะหารือกับ สว.ที่ถูกเรียก หรือจะถูกเรียกในอนาคต เพื่อให้ดำเนินการไปในรูปแบบเดียวกัน ที่กำหนดไว้วันที่ 19-20 พฤษภาคมนี้

 

ส่วนหากวิเคราะห์เหตุใดศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีคำสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยุติการควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ในคดีการฮั้ว สว.นั้น พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ มองว่า การดำเนินการของ DSI ไม่โปร่งใส ทำให้ปราะชาชนที่ถูกเรียกสอบเป็นพยาน โดยเฉพาะที่อำนาจเจริญเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกละเมิดสิทธิ จึงไปร้องเรียนต่อ สว.อำนาจเจริญ ก่อนนำมาร้องเรียนต่อวุฒิสภา ตนจึงได้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่า การสอบสวนเป็นอย่างไร แต่ก็เป็นความรู้สึกของประชาชนว่า การปฏิบัติดังกล่าว อาจไม่เป็นไปตามที่คณะกรรมการ กคพ.กำหนดให้เป็นคดีพิเศษ ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน แต่ในการสอบสวนกลับเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว.และจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้ศาลฯ มีคำสั่งดังกล่าวออกมาหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ และไม่อาจก้าวล่วงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้

ส่วนแนวทางการต่อสู้ในคดี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการสัญญาว่าจะให้ด้วย จะมีแนวทางการต่อสู้อย่างไรนั้น พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ระบุว่า การต่อสู้คดีการสอบสวนนั้น จะต้องได้ข้อเท็จจริงจากข้อกล่าวหาก่อนว่า สัญญาว่าจะให้กับใคร และเมื่อใด เพื่อให้สามารถไปชี้แจงได้ แต่หากกล่าวหาว่ามีความผิดตามกฎหมายกว้าง ๆ ตนเองก็ไม่ทราบว่า จะต้องชี้แจงอย่างไร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตนเองจะชี้แจงแน่นอน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่จะต้องเป็นขั้น เป็นตอน แต่หากไม่ชัดเจนอย่างไร ตนก็จะให้ อนุฯ กกต.นัดวันชี้แจงอีกครั้ง

 

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ยังย้ำว่า สว.พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะ สว.ถูกกระทำฝ่ายเดียวมาโดยตลอดเป็นระยะ และไม่มีอะไรที่ สว.จะต้องตอบโต้ เพราะ สว.ขณะนี้ แทบจะเป็นจำเลยสังคม และการปฏิบัติหน้าที่ของ สว.ต้องดำเนินการต่อไป ตามที่ กกต.ได้รับรองผลการเลือก สว.มาแล้ว