svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จุลพันธ์" มั่นใจ ร่างกม.เอ็นฯ ผ่านสภาวาระ 1 เตรียมตั้ง กมธ. 31 คน

"จุลพันธ์" มั่นใจ "พ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ" ผ่านสภาฯวาระ 1 เตรียมตั้ง กมธ. 31 คน ยันรื้อแน่ปมเงินฝาก 50 ล้านเล่นกาสิโน ตั้งเป้าออกกฎหมายให้แล้วเสร็จในรัฐบาลนี้ (่ มีคลิป )

7เมษายน 2568 "นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรในประเทศไทย ว่าในวันที่ 9 เม.ย.นี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาในวาระที่ 1 เพื่อรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมสภาฯจากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ขึ้นจำนวน 31 คน โดยตนเองจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการเอง 

จุลพันธ์  อมรวิวัฒน์  รมช.คลัง

โดยในส่วนของกรรมาธิการทั้ง 31 คน จะมาจากหลายภาคส่วนโดยมีสัดส่วนมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 9 คน นอกจากนั้นก็จะมีสัดส่วนมาจากพรรคการเมืองต่างๆ นักวิชาการ หน่วยงานราชการ และอาจมีคนนอกเข้ามาร่วม 


อุบชื่อ 31 กมธ. ป้องกันหาผลประโยชน์

"โดยในส่วนของโควตากรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ผมจะเป็นคนคัดรายชื่อเองโดยเน้นไปที่คนที่เข้ามาทำงานได้จริง นอกจากนี้ ได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยว่ากรรมาธิการทุกคนที่เข้ามาต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีจะให้ใครเข้ามาหาประโยชน์ไม่ได้" นายจุลพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ สัดส่วนของกรรมาธิการ 31 คนถือว่าเหมาะสม เพราะในปี 2548 ก็เคยมีการตั้งกรรมาธิการจำนวนมาก และตั้งมาหลายชุดก่อนหน้านี้ แต่ไม่เคยผ่านกฎหมายออกมาจริง แต่ครั้งนี้จะเอาเฉพาะคนที่ทำงานได้จริงๆและตั้งเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

"นายจุลพันธ์" กล่าวว่าในขั้นตอนของการผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลเร่งรีบ แต่หากสามารถรับหลักการกฎหมายในเดือน เม.ย.นี้ก่อนปิดประชุมสภาฯในการพิจารณาวาระที่ 2- 3 จะทำได้ทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯในเดือน ก.ค.นี้ 

โดยการผลักดันกฎหมายนี้ถือเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลนี้จะผลักดันกฎหมาย รวมทั้งตั้งสำนักงานสถานบันเทิงครบวงจร นี้ให้ทันในสมัยของรัฐบาลนี้  

หลังจากนี้จะต้องมีขั้นตอนการออกกฎหมายลูกที่ต้องใช้ระยะเวลาอีกมากในการดำเนินการ ซึ่งการทำให้กฎหมายทั้งหมดแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้คือการเตรียมความพร้อมของนโยบายนี้ และอาจสามารถเปิดประมูลคัดเลือกผู้ได้รับใบอนุญาตได้บางราย เพื่อให้เกิดการลงทุนได้ทันทีในรัฐบาลหน้าไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม 

แฟ้มภาพ
 

"นายจุลพันธ์" กล่าวต่อว่า การลงทุนของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  รัฐบาลมองว่าเป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยตอนนี้เราต้องโฟกัสว่าในส่วนที่ไม่ใช่"กาสิโน"ที่มีอยู่เพียง 10% ของพื้นที่คืออะไรบ้าง

เพราะเราออกแบบให้เป็น 4 บวก 1 คือมี "กาสิโน" บวกกับสิ่งที่จะก่อสร้างอีก 4 อย่างในพื้นที่คืออะไรบ้าง ซึ่งก็คือโครงสร้างพื้นฐาน ที่ประเทศไทยยังขาด เช่น สนามกีฬามาตรฐานขนาดใหญ่ คอนเสิร์ตฮอลล์ สวนน้ำและสวนสนุกระดับโลก ห้างสรรพสินค้าที่มีชอร์ปแบรนด์เนมหรูหรามาเปิด เป็นต้น

เล็งโมเดลสิงคโปร์ เป็นต้นแบบเก็บภาษีเข้ารัฐ

โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับนี้ภาครัฐคาดหวังว่าจะเก็บภาษีได้มากขึ้น ซึ่งจะมีภาษีทั้งภาษีที่เก็บจากธุรกิจกาสิโนที่เรากำหนดอัตราภาษีที่สูง โดยหากใช้โมเดลเดียวกับสิงคโปร์ภาษีรายได้ขั้นต้นจากการเล่นพนัน (Gross Gambling Revenue; GGR) ที่สิงคโปร์เก็บจากลูกค้าที่เป็น VIP ในอัตรา 12% และคนทั่วไปจะเก็บ 18% นอกจากนี้ยังมีรายได้จากภาษีนิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)  

แฟ้มภาพ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

สำหรับประเด็นการลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีข้อเสนอให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) ให้ชัดเจนว่า ประเทศไทย ควรมีกี่ไลเซ่นส์ โดยมีการยกตัวอย่างของสิงคโปร์ที่มีเพียง 2 ไลเซ่นส์ 

"จุลพันธ์" มั่นใจ ร่างกม.เอ็นฯ ผ่านสภาวาระ 1 เตรียมตั้ง กมธ. 31 คน

"นายจุลพันธ์" กล่าวว่า ในเรื่องการกำหนดจำนวนไลเซ่นส์นั้นจะเป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร 

"ผมยังไม่สามารถบอกได้ว่าประเทศไทยจะมีการอนุมัติให้มีการลงทุนกี่แห่ง โดยจะต้องรอผลการศึกษาที่จะทำโดยสำนักงานบริหารสถานบันเทิงครบวงจรที่ตั้งขึ้นมาก่อน 

ส่วนกรณีสิงคโปร์กำหนดให้มีเพียง 2 ไลเซ่นส์เพราะขนาดพื้นที่มีแค่นั้น ส่วนไทยต้องรอผลการศึกษาว่าเรามีความเหมาะสมจะมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กี่แห่งโดยต้องมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจ โดยอนาคตสามารถลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ แต่การสร้างต้องมีกรอบความรับผิดชอบที่ชัดเจนของผู้ที่ได้รับไลเซ่นส์ไปแล้ว

"จุลพันธ์" มั่นใจ ร่างกม.เอ็นฯ ผ่านสภาวาระ 1 เตรียมตั้ง กมธ. 31 คน

ส่วนการควบคุมให้มีการลงทุนจริงในส่วนอื่นๆของโครงการนั้นก็จะทำผ่านคณะกรรมการ และกลไกของสำนักงาน เช่น มีการกำหนดว่าภายใน 2 – 3 ปีต้องมีการสร้างส่วนอื่นๆให้ครบ หากไม่ทำตามก็สามารถพักใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้ "

รื้อกม.ปมคนไทยเงินฝาก 50 ล้านเล่นกาสิโน

สำหรับประเด็นเรื่องเงินฝากที่ตัวร่างกฎหมายได้มีการกำหนดว่าคนไทยที่จะเข้าไปเล่น 50 ล้าน นั้น  รมช.คลัง ยอมรับว่าในชั้นกรรมาธิการคงต้องมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องนี้ โดยมีหลายหน่วยงานให้ความเห็น เช่น อาจเอาเกณฑ์ของการยื่นภาษีเงินได้มาใช้ หรือเกณฑ์ของเครดิตบูโร เพื่อกำหนดได้ว่าไม่ให้คนที่มีหนี้สินพ้นตัวมาเล่นการพนันในกาสิโน โดยในต่างประเทศมีการใช้ระบบ การยืนยันตัวตนที่เพิ่มความปลอดภัยทางการเงิน  (KYC) ผู้ที่เข้ามาเล่นกาสิโนจะมีการถูกตรวจสอบได้ผ่านระบบชัดเจน ซึ่งสามารถป้องกันการฟอกเงิน เงินเข้า-ออก ต้องแจ้งและมีเทคโนโลยีการตรวจสอบ มีกล้องจับตลอดเวลา รวมทั้งมีเทคโนโลยีใหม่ป้องกันการใช้ชิปปลอม ใครแลกชิปคนนั้นต้องเล่นเอง  เป็นต้น  

นอกจากนี้ ในคณะกรรมการนโยบายของสถานบันเทิงครบวงจรมีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ด้วยจะทำให้สามารถวางนโยบายในการป้องกันเรื่องการฟอกเงินไว้ตั้งแต่แรก


สำหรับการแก้ไขเรื่องของปัญหาการติดพนันที่เป็นอีกข้อที่ฝ่ายคัดค้านกังวล "รมช.คลัง" กล่าวว่า ทุกวันนี้เรื่องของการติดการพนันนั้นมีอยู่ในไทยอยู่แล้ว มีคนที่ลักลอบออกไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน โดยการแก้ไขปัญหานี้มีการพิสูจน์แล้วในสิงคโปร์ว่าเมื่อมีการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีประชากรสิงคโปร์เข้าไปเล่นการพนันในกาสิโนแค่ 3% คนติดการพนัน 0.1%  ซึ่งกลไกในเรื่องนี้มีการตรวจจับไปถึงพฤติกรรมของผู้เล่น

ชมคลิป >>> เอ็กคลูซีฟจุลพันธ์ ชำแหละกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์