"วิโรจน์" เผยเบื้องหลังรับทราบข้อกล่าวหา "ป.ป.ช." ปมแก้มาตรา 112

21 กุมภาพันธ์ 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาในคดีคำร้อง 44 สส.ละเมิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อเพื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เปิดเผยภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ กรรมการ ป.ป.ช. โดยใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงว่า ข้อกล่าวหานั้น ไม่ได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งข้อกล่าวหาเน้นไปที่การแก้ไขเนื้อหาสาระของกฎหมายเป็นหลัก ดังนั้น ในกรณีนี้ จึงไม่ได้กังวลใจใด ๆ เพราะการแก้ไขเนื้อหาสาระ มีการปรึกษากับนักกฎหมายอยู่แล้ว และเป็นการศึกษาอำนาจนิติบัญญัติโดยชอบ 

นายวิโรจน์ ยังระบุถึงการถูกแจ้งข้อกล่าวหาในกรณีของตนเองว่า ยังมีการนำการให้สัมภาษณ์ของตนเอง ผ่านรายการ สำนักข่าว เพราะเป็นการแสดงเหตุผลอย่างเปิดเผยต่อสื่อสาธารณะ ซึ่งตนเองก็ได้ยืนยันเจตนาสุจริต และไม่ได้กังวลใด ๆ เมื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็เบาใจ 

นายวิโรจน์ ยังยืนยันด้วยว่า ตามข้อกล่าวหานั้น ไม่ได้กล่าวถึงการใช้ตำแหน่ง สส.ประกันตัวให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวเรื่องมาตรา 112 แต่เรื่องหลักอยู่ที่การแก้ไขมาตรา 112 ในส่วนเนื้อหาสาระ ซึ่งตนก็พร้อมที่ชี้แจง รวมถึงในการยื่นญัตติก็มีการระบุถึงเหตุผลในการดำเนินการอยู่แล้วเช่นกัน 

ส่วนที่เบาใจ เพราะข้อกล่าวหาตรงกับการเตรียมการต่อสู้แก้ไขข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ บอกว่า ไม่ แต่เป็นเพราะข้อกล่าวหาที่มีความตรงไปตรงมา โดยสุดท้ายยังได้มีการตรวจพยานหลักฐาน จำนวน 106 แผ่นด้วย ส่วนเรื่องระยะเวลา ก็ได้หารือกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.แล้ว ตลอดจนมีการพูดคุยกันในรายละเอียดตามข้อกล่าวหา และการชี้แจงของตนก็จะมีการระบุถึงหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ ด้วย และฝ่ายกฎหมายมีการแนะนำว่า ให้ชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา 

ส่วนคาดการณ์ ป.ป.ช.จะมัดรวมคดี หรือพิจารณาเป็นรายบุคคลนั้น นายวิโรจน์ มองว่า น่าจะพิจารณาเป็นรายบุคคล 

ส่วนหาก 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกลเดิม ซึ่งปัจจุบันเป็น 25 สส.ของพรรคประชาชน ดำเนินไปถึงขั้นตอนสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะกระทบต่องานสภา และการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ มองว่า เรื่องการปรับระบบรูปแบบการทำงาน พรรคฯ ทำมาตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกลแล้ว ซึ่งแต่เดิม สส.ของพรรคฯ บางคนมักจะทำงานแบบฉายเดี่ยว และตอนนี้มาทำงานเป็นทีมแล้ว ก็ต้องถ่ายทอดค่ายกลจินบู๊ 7 ตัดทอน ของสำนักบู๊ตึ๊ง หมายความว่า หากมีความจำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จริง ก็จะมีช่วงรอยต่อ ถ้าทำตอนต้นไว้ดี การไปต่อสุดทางคงไม่ยาก แต่การที่มีใครหายไป อาจทำให้มีการชะงักเล็กน้อย แต่ก็ยืนยันว่า สามารถไปต่อได้แน่นอน