5 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.34 น. ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กดปุ่มตัดไฟฟ้า 20.37 เมกะวัตต์ รวม 5 จุด ในประเทศเมียนมา ตามมติ สมช. ประกอบด้วย
ภายหลังหยุดการจ่ายไฟให้ 5 จุดในเมียนมา เรียบร้อยแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้สัมภาษณ์ว่า กฟภ.ได้หยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา ทั้งหมด 5 จุด ที่เชื่อมต่อชายแดนไทย ใน จ.เชียงราย ตาก และ กาญจนบุรี
การดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามมติที่ประชุม สมช. เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2568 ช่วงเย็น โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามหนังสือสั่งการมายัง กฟภ. ให้ตัดกระแสไฟฟ้าภายในเวลา 09.00 น. วันนี้ ซึ่ง กฟภ.ได้ดำเนินการตามการสั่งการของมติที่ประชุม สมช.เรียบร้อย เราเป็นผู้ปฏิบัติตามข้อสั่งการที่ถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมาย กฟภ.ดำเนินการได้ทันที
ที่ผ่านมามีการพูดมากมาย ทำไมกระทรวงมหาดไทยไม่ตัดสินใจตัดกระแสไฟฟ้าเอง ซึ่งตรงนี้อยู่นอกเหนืออำนาจ แต่เมื่อมีมติ สมช.และมีหนังสือมาเราก็ดำเนินการทันที
ที่ผ่านมามีการพูดมากมาย ทำไมกระทรวงมหาดไทยไม่ตัดสินใจตัดกระแสไฟฟ้าเอง ซึ่งตรงนี้อยู่นอกเหนืออำนาจ แต่เมื่อมีมติ สมช.และมีหนังสือมาเราก็ดำเนินการทันที
การขายไฟฟ้าไปประเทศเพื่อนบ้านเป็นมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ดำเนินการได้ แม้กระทั่งมติที่ประชุม สมช. ถ้าดำเนินการเสร็จก็ต้องนำเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ส่วนนายกรัฐมนตรีจะนำเข้า ครม. เพื่อทราบหรือไม่ เป็นการพิจารณาของท่าน
นอกจากนี้ ยังมีมติต่อเนื่องมากมาย อันหนึ่งให้ กฟภ. ศึกษาที่เคยขายไฟฟ้า และให้ทบทวนปรับปรุงแก้ไข เพื่อนำเสนอ ครม. ให้มีมติ ครม.ใหม่ เพราะเมื่อปี 2539-2541 ยังไม่เคยมีสแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่างกับตอนนี้ จึงให้ศึกษาและนำเสนอว่า มติ ครม.ถ้าจะมีการขายไฟฟ้าจากนี้ไป จะแก้ไขยังไงบ้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เราได้ออกหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆแล้ว เราต้องแก้ไขและเจรจาใหม่
“วันนี้รัฐบาลบอกให้หยุด เพราะคุณเอากระแสไฟฟ้าของเราไปทำความเดือดร้อนให้กับ ประเทศของเรา วันนี้เราทำตามข้อกำหนดในสัญญาข้อ 14 จ่ายไฟไปแล้ว มีผลกระทบต่อความมั่นคงต่อประเทศ กระทบต่อความมั่นคงทางพลังงาน เราสามารถงดจ่ายไฟได้ เป็นไปตามขั้นตอน สมช. การสั่งการเราไม่ได้โยนกันไปมา แต่มันมีขั้นตอน"
เมื่อถามถึงรายได้ที่เสียไปหลังหยุดจ่ายไฟ นายอนุทิน กล่าวว่า รายได้จากตรงนี้เดือนหนึ่งประมาณ 50 ล้านบาท ปีละ 600 ล้านบาท แต่กำไรจริงๆไม่ถึง 1% เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เกี่ยวกับความมั่นคงและรับข้อสั่งการจากรัฐบาล ฝ่ายนโยบาย ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อใดที่มีข้อสั่งการที่ กฟภ.เชื่อว่าเป็นข้อสั่งการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราก็พิสูจน์ในวันนี้แล้ว
นี่เป็นเรื่องของความมั่นคง แต่คู่สัญญาคือบริษัทที่ทางเมียนมา มีการผิดสัญญา อยู่ที่ตัวบริษัทเขาผิดสัญญา ทางการของเราพบว่ามีการนำกระแสไฟฟ้านี้ไปใช้ทำสแกมเมอร์ ยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เราใช้เงื่อนไขที่รายงานไปยัง สมช. มติ สมช.ตัดไฟ เราไม่ได้ช้า เรารอข้อสั่งการ
ส่วนพอตัดไฟปุ๊บ เขาจะไปไฟฟ้าจากลาวหรือที่ไหน อันนั้นไม่เกี่ยวกับเรา ประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องดูแลจัดการไป อันนี้เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อให้เกิดสิ่งผิดกฎหมาย โดยคำสั่ง สมช. ให้หยุดทั้งบริการอินเตอร์เน็ต หยุดขายน้ำมัน ต่อไปนี้ต้องไปดูเรื่องการสกัดกั้น เกตเวย์ สัญญาณอินเตอร์เน็ต เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามภารกิจหน้าที่จบแล้ว
รวมทั้งถ้ามีการอพยพเข้ามาของคน หลบภัยเข้ามา อันนี้กระทรวงมหาดไทยยังเกี่ยวอยู่ ปิดด่าน ป้องกันไม่ให้คนลักลอบเข้าเมือง