
:: “ปกรณ์วุฒิ” ยืนยัน ปชน. ยึดเกณฑ์ประชามติชั้นเดียว ::
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า จุดยืนการพิจารณาของ สส.พรรคประชาชน ยืนยันตามการปรับแก้ของสภาผู้แทนราษฎร ในการใช้เสียงข้างมากธรรมดา หรือ Simple Majority และแม้ความเห็นต่างระหว่างสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จะทำให้ต้องพักร่างกฎหมายไว้ 180 วัน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎร จะต้องเป็นผู้ยืนยันมติอีกครั้งหนึ่งนั้น ก็ไม่เป็นไร เนื่องจาก ยังคงมีพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับเดิม ที่มีผลใช้บังคับอยู่ และหากสามารถจัดการออกเสียงประชามติเพียง 2 ครั้ง ก็คาดว่า จะสามารถเลือก สสร. และแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทันก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) นั้น นายปกรณ์วุฒิ เห็นว่า จะเป็นอาวุธติดตามให้กับกรรมาธิการ หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าคำสั่งเรียก ขัดรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีการแก้ไข เพื่อให้กรรมาธิการสามารถเรียกหน่วยงานเข้ามาชี้แจงได้
:: ฝ่ายค้าน จี้นายกฯ ตอบกระทู้ถามสภาฯ แทนให้โฆษกตอบโต้ด้วยตรรกะวิบัติ ::
นายปกรณ์วุฒิ ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี มาตอบกระทู้ถามของฝ่ายค้าน ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เพราะผู้นำฝ่ายค้านฯ มีกระทู้สดที่จะถามนายกรัฐมนตรี ต่อเนื่องมาจากการแถลงผลงาน รวมถึงอีกหลายประเด็นที่สังคมจับตามอง และเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เหตุการณ์ให้ความสนใจ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี มีการแถลงผลงานไปแล้ว จึงเป็นโอกาสดี ในการแก้ไขข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ แทนการให้โฆษกรัฐบาล หรือโฆษกพรรคออกมาตอบโต้แทนด้วยตรรกะวิบัติ เช่น การให้กลับไปดูตัวเองก่อนการวิจารณ์นายกรัฐมนตรี และเพื่อให้เห็นความสำคัญของการตรวจสอบถ่วงดุล
:: “ปกรณ์วุฒิ” เผยฝ่ายค้านเตรียมดินเนอร์พรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ลับมีดจ่อเปิดซักฟอก ::
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ว่า จะเป็นการพูดคุยกันหลังมีการเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมฝ่ายค้าน และมีผู้นำฝ่ายค้านฯ คนใหม่ จึงเชิญมาพูดคุยถึงการเตรียมการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งกรอบเวลา และแต่ละพรรค มีความเห็นอย่างไร รวมถึงการพูดคุยถึงการทำงานร่วมกันอื่น ๆ เนื่องจาก ไม่ได้เป็นการร่วมกันทำงานด้วยความสมัครใจเหมือนพรรคร่วมรัฐบาล และแต่ละพรรค มีอุดมการณ์แนวคิดที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องสงวนจุดต่าง เคารพความเห็น และสนับสนุนการทำงานร่วมกันที่สามารถทำได้
ส่วนหากมีพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่น ๆ ขอไม่ให้มีการอภิปรายในบางเรื่องนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า ไม่สามารถขอกันได้ เพราะเป็นสิทธิของแต่ละพรรค
ส่วนการทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐนั้น นายปกรณ์วุฒิ ย้ำว่า การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แตกต่างจากพรรคร่วมรัฐบาล เหมือนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ยังร่วมเป็นฝ่ายค้านในขณะนั้น ซึ่งเองก็ได้สอบถามความเห็นในการพิจารณาร่างกฎหมายว่า มีความเห็นอย่างไร ซึ่งหากเห็นต่างก็ไม่เป็นปัญหา เพราะแต่ละพรรคก็มีแนวคิดแตกต่างกัน ดังนั้น จึงคาดหวังเพียงว่า การทำงานจะราบรื่น สิ่งใดที่เห็นตรงกันก็ขอให้อยู่ร่วมลงมติให้มากที่สุด เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของฝ่ายค้าน เพื่อทำให้ทำงานได้อย่างราบรื่น
นายปกรณ์วุฒิ ยังระบุว่า ที่ผ่านมาการเป็นฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะมีกี่เสียงก็คือเสียงข้างน้อย แต่การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของฝ่ายค้าน เป็นสิ่งสำคัญ และการทำงานตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร