"ทักษิณ" รับยังไม่เห็นเนื้อหาแก้ พ.ร.บ.กลาโหม นายกฯอิงค์ ก็ตกใจ

11 ธันวาคม 2567 ที่ จ.อุบลราชธานี "นายทักษิณ ชินวัตร" ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงประเด็นที่ นายอนุทิน กล่าวถึง กรณีพรรคเพื่อไทยเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม โดยมีข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ และการสกัดการทำปฏิวัติ ว่า

 

เรื่องอื่นตนยังไม่ได้ดู แต่ถ้าเป็นเรื่องการสกัดการปฏิวัติตนไม่เห็นด้วย เพราะถ้าจะสกัดการปฏิวัติไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เพราะนักการเมืองก็คือนักการเมือง

นายทักษิณ ตอบว่า เรื่องนี้เป็นความคิดริเริ่มของคนบางคน โดยที่ยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองของพรรค รับตนเองยังไม่เห็นเนื้อหา เผยไม่จำเป็นต้องแก้กฏหมาย แต่แก้แค่ระเบียบก็ทำงานคล่องขึ้นแล้ว 

 

"ผมยังไม่รู้เรื่องเลย ผมยังตกใจอยู่ พอทราบข่าวผมยังตกใจอยู่ จริงๆแล้วมันไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายด้วยซ้ำ แก้ระเบียบกลาโหมแค่นั้น ก็ทำงานคล่องตัวได้เยอะแล้ว จริงๆแล้วคือคนที่เสนออาจจะไม่เข้าใจ คือ นายกฯอิงค์ เองก็ตกใจเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรค"

 

นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ทาง "พรรคภูมิใจไทย" อาจจะพูดเร็วไปหน่อย ยังไม่ได้มีการเข้ามาสอบถามเลยว่าเป็นมติพรรคหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่มติพรรคแต่ภูมิใจไทยรีบหล่อเร็วไปนิดนึง หล่อช้าๆอีกนิดนึงก็ได้  

 

"ผมยังไม่รู้เรื่องเลย  ผมยังตกใจอยู่ พอทราบข่าวผมยังตกใจอยู่ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายด้วยซ้ำ แก้ระเบียบกลาโหมแค่นั้น ก็ทำงานคล่องตัวได้เยอะแล้ว  จริงๆแล้วคือคนที่เสนออาจจะไม่เข้าใจ คือนายกอิงค์เองก็ตกใจเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรค"

เมื่อนักข่าวถามว่าต้องไปอธิบายกับทางภูมิใจไทยหรือไม่ 

 

นายทักษิณ ตอบว่า ไม่ต้องอธิบายเพราะอยู่ร่วมกันเดี๋ยวก็ฝึกการทำงานร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องโทรหา เพราะบางทีเค้าก็หล่อเร็วไปก็ไม่ดี หล่อช้านิดหนึ่งก็จะหล่อขึ้น จะหล่อกว่านี้ 

 

"จริงๆผมยังไม่เห็นเนื้อหาด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆก็ออกไปร่างแล้วก็ไปพูด โดยที่พรรคยังไม่รู้เรื่อง อันนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการของพรรคก่อน

ส่วนวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ผมต้องไปบรรยายไปให้พรรคฟังเรื่องสถานการณ์โลก สถานการณ์ไทย สถานการณ์การเมือง ในฐานะที่เป็นผู้เก่าแก่ในวงการการเมืองไทยพอสมควร ก็คงจะสอนน้องๆ เค้าหน่อยว่าอะไรที่มันควรหรือไม่ควร" นายทักษิณ กล่าว

 

 

"ทักษิณ" ย้ำชัดไม่มีรัฐประหาร "นายกฯอิ๊ง"

 

ผู้สื่อข่าวถามเรื่อง "นายกฯอิ๊งค์" จะเป็นคนเดียวในตระกูลชินวัตรที่จะไม่ถูกรัฐประหารหรือไม่ 

นายทักษิณ ตอบว่า จริงๆแล้วมันมีอะไรเยอะกว่านั้น รับรองว่ารัฐประหารไม่มีแล้ว เพราะที่ผ่านมา 10 ปีการรัฐประหารทำให้ประเทศช้ำมามากแล้ว 

 

 

ส่วนประเด็นที่นาย สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางไปถึงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาลเรียกร้องยกเลิก MOU 44 และ JC 44 ขีดเส้น 15 วัน กลับมาทวงคำตอบ และพร้อมลงถนน สู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว 

 

 

นายทักษิณ ตอบว่า เป็นเรื่องที่อธิบายกันได้ ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ตนจะอธิบายให้หังในฐานที่ MOU 44 เกิดขึ้นในสมัยของตนเอง ตนเองจะเป็นคนอธิบายให้ฟัง ระบบการเมืองของเรามันต้องเข้าใจก่อนว่า 9-10 ปี ที่ผ่านมาสื่อมวลชน หรือโซเชียลเองก็ตาม ยอมรับการเป็นรัฐบาลประหาร พอวันนี้ทหารออกไป ทุกคนยอมรับว่าเราเป็นประชาธิปไตย ก็ซัดกันเต็มที่  ก็ไม่เป็นไรเราเป็นเรื่องที่ต้องให้ทุกฝ่ายคุยกันและหาข้อยุติร่วมกัน

 

 

 

เมื่อถามว่า นายทักษิณ สามารถคุยได้กับทุกคนทุกฝ่ายหรือไม่ 

 

นายทักษิณ ตอบว่า คุยทุกคนได้หมดถ้าพูดภาษาไทย คุยได้หมด ผมฟังได้หมดคุยรู้เรื่อง แค่อย่าเอาเสือมาพูดกับผม ผมกลัวมันกิน

 

 

จากนั้นนักข่าวถามว่า การที่นายสนธิออกมาแบบรุนแรงแบบนี้ อาจจะเป็นการรวมมวลชน และปลุกม๊อบจะนำมาซึ่งรัฐประหารเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่

 

นายทักษิณ ตอบว่า การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิม

 

 

 

นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีที่นายกฯอิ๊งค์ มีดราม่ามากมายเข้ามา เรื่องนี้

 

นายทักษิณ ได้ให้กำลังใจนายกอิ๊งบอกว่านายกอิ๊งค์เป็นคนเข้มแข็ง รู้ว่าจะมีดราม่า แต่อาจจะเกินคาดไปบ้าง ซึ่งในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ จะมีการสัมนาพรรคที่หัวหิน ก็คงจะมีการพูดกันในพรรคด้วย

 

ส่วนในเรื่องของการช่วยเหลือภาคใต้นั้น  ภาคไหนก็แล้วแต่ที่มีปัญหา  ทางนายกรัฐมนตรีก็ต้องสั่งการ เพราะถ้าหากให้ลงไปทุกพื้นที่คงไม่ไหว เนื่องจากนายกมีภารกิจเยอะ มีการแบ่งหน้าที่กันกับทางรองนายกฯ บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา 

ถึงแม้บางทีจะมีดราม่าบ้างว่าภาคใต้ต้องไป  ซึ่งทางนายกอนุทิน ก็ได้ลงพื้นที่ไปแล้ว เพราะบังเอิญช่วงนั้นนายกฯ อยู่ภาคเหนือมีการประชุม ครม.สัญจร  

จะให้วิ่งไปภาคใต้ก็ไม่ไหว เพราะในเมื่อก็มีรองนายกฯลงพื้นที่ไปแล้ว พร้อมย้ำว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องรักคนทั้งประเทศอยู่แล้ว