เปิดประวัติม้า "Fürst Henry" ม้าทรงประจำพระองค์ "เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ"
เปิดประวัติม้า "Fürst Henry" ม้าทรงประจำพระองค์ "พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ในขบวนสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ 2567
21 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ( 20 พฤศจิกายน 2567 ) กองทัพไทยได้เผยแพร่ ความสง่างามการซักซ้อมพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ ประจำปี 2567 ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นการซักซ้อมครั้งที่ 3 เพื่อความพร้อมเพรียงและความสมบูรณ์ของลำดับพิธี ก่อนถึงวันประกอบพิธีจริงในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
ในการนี้ "พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี" จะทรงนำการสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพ ในตำแหน่ง "องค์ผู้บังคับกองผสม" พร้อมด้วย "พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ในตำแหน่ง "องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์"
ประวัติม้าทรงประจำพระองค์ "Fürst Henry" (ฟรุ๊ต เฮนรี่) เกิดเมื่อคริสต์ศักราชที่ 2010 ปัจจุบันอายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เข้ารับราชการเมื่อ 29 ตุลาคม 2561 โดยประจำการ ณ หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ เป็นหนึ่งในม้าทรงประจำพระองค์ฯ ประเภทศิลปะการบังคับม้า หรือเดรสสาจ (Dressage) โดยพระองค์หญิงเคยทรงม้า Fürst Henry ในการฝึกรวมทั้งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศหลายรายการ
ในการนี้ "พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ทรงเข้าร่วมพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ วันที่ 3 ธันวาคม 2567 ณ ลานพระราชวังดุสิต โดยทรงดำรงตำแหน่งเป็น "องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์" และทรงเลือกม้า Fürst Henry (ฟรุ๊ต เฮนรี่) เป็นม้าทรงประจำพระองค์ ในการสวนสนามนำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ในพิธีดังกล่าว
"พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ทรงพระปรีชาสามารถในด้านการขี่ม้า เป็นอย่างมาก ทรงเป็นนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน เคยเข้าร่วมแข่งขันในระดับซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์หลายสมัย โดยทรงให้ความสำคัญกับการฝึกกำลังพลและม้าของหน่วยให้มีความพร้อมและสง่างามอยู่เสมอ
อีกทั้งดูแลด้านการสัตวบาล โครงการบ้านพักม้าชราในพระอุปถัมภ์ฯ เพื่อให้ม้ามีคุณภาพชีวิตที่หลังจากการปลดประจำการ การสร้างศูนย์บริการและเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า เพื่อให้เป็นสถานบริการสุขภาพ
ทั้งด้านการรักษาและเป็นศูนย์การศึกษาและฝึกงานของบุคลากร ด้านสัตวแพทย์ในประเทศไทย นอกจากนี้การจัดโครงการจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือและดูแลตัวม้าคอกม้า เพื่อสวัสดิการที่ดีของม้า รวมทั้งการแนะนำการบริหารจัดการคอกม้าต่างๆ ให้ทันสมัยทัดเทียมกับนานาชาติ