svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เช็กสัญญาณ"ก.พ.ค.ตร."ผ่านจุดยืน ธวัชชัย ไทยเขียว"ก่อนชี้ชะตา"บิ๊กโจ๊ก"

จับท่าที "ก.พ.ค.ตร" ผ่านมุมมอง "ธวัชชัย ไทยเขียว" อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และกรรมการก.พ.ค.ตร. ต่อคำวินิจฉัย "บิ๊กโจ๊ก" ได้ไปต่อบนเส้นทางชีวิตราชการหรือไม่

29 กรกฎาคม 2567  ข้อมูลจาก "พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์" ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เปิดเผยทีมข่าวเนชั่นทีวี ว่า "ก.พ.ค.ตร." จะมีการวินิจฉัย คำอุทธรณ์ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล" รองผบ.ตร. ว่าคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในปลายเดือน หรือ 31 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

เช็กสัญญาณ"ก.พ.ค.ตร."ผ่านจุดยืน ธวัชชัย ไทยเขียว"ก่อนชี้ชะตา"บิ๊กโจ๊ก"

ทำให้สปอร์ตไลท์ย่านปทุมวันสาดส่องมาที่ "ก.พ.ค.ตร." มากเป็นพิเศษ เพราะการพืจารณาวาระดังกล่าว มีผลต่อเส้นทางความเจริญก้าวหน้า นายตำรวจระดับสูงที่อาจไปถึงเก้าอี้"ผบ.ตร."กันเลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน  นี่เป็นการแสดงบทบาทการทำงานของ " ก.พ.ค.ตร."  ครั้งแรก ภายหลังกำเนิดขึ้นจาก พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา"ก.พ.ค.ตร."ก็ได้ดำเนินการต่อการอุทธรณ์นี้ ครบถ้วนทุกกระบวนการ จนมาถึงวันที่จะวินิจฉัย

"ก.พ.ค.ตร." มีผู้ได้รับการคัดเลือกให้มาทำงานทั้งสิ้น 7 คน แต่สำหรับ กรณี "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" ได้ร้องเรียนเข้ามาว่า มีกรรมการ ก.พ.ค. ตร. หนึ่งท่าน อาจมีส่วนได้ส่วนเสียต่อการพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ ทำให้กรรมการก.พ.ค.ตร. ขอถอนตัวไปหนึ่งราย


กรรมการ 1 คน ที่เป็นคู่ขัดแย้งกันถอนตัว คือ "พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี" ที่"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" เคยเป็นนายเวรมาก่อน และเคยฟ้องร้องดำเนินคดีพล.ต.อ.วิเชียรกับพวก ต่อศาลอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เมื่อครั้ง พล.ต.อ.วิเชียร สั่งให้จเรตำรวจสอบสวน "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" สมัยติดยศ พ.ต.อ. ประเด็นที่สถานบันบันเทิงในภาคอีสานร้องเรียน

"พล.ต.อ.วิเชียร" โชว์สปิริตด้วยการขอถอนตัว เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่า การพิจารณาของ"ก.พ.ค.ตร." ไม่เป็นธรรมการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร.เป็นไปในลักษณะปิดลับ แต่ระหว่างที่พิจารณามีเสียงนินทาจากบรรดาชาวสีกากีที่ไม่ค่อยจะคาดหวังกับบรรดาคณะกรรมการชุดต่างๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินัก เพราะผลงานส่วนใหญ่ออกมาในลักษณะตามใจผู้มีอำนาจเป็นหลัก

 

สำหรับ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. พิจารณาครบองค์คณะ 6 คน ประกอบด้วย 

1.นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ ประธานก.พ.ค.ตร. 

2.นายธวัชชัย ไทยเขียว กรรมการ 

3.นายวันชาติ สันติกุญชร กรรมการ

4.พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ กรรมการ

5.พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการ 

6.พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน กรรมการ ก.พ.ค.ตร. 

ส่วน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ขอถอนตัว

000000000000

อย่างไรก็ดี หากตรวจสอบท่าทีแต่ละคน ที่มาสวมหมวกเป็น "ก.พ.ค.ตร." อาจทำให้เห็นแนวทางการพิจารณาคดี "บิ๊กตำรวจ"

หนึ่งในหกรายที่เหลือน่าสนใจ เห็นจะเป็น "ธวัชชัย ไทยเขียว" กรรมการ ก.พ.ค.ตร. และรองโฆษก ก.พ.ค.ตร. ท่านได้โพสต์ข้อความสะท้อนจุดยืน "ก.พ.ค.ตร." เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา


"เนชั่นทีวี" ขอนำข้อความดังกล่าวมาเสนอดังนี้

"นายธวัชชัย"  ตั้งหัวข้อไว้ว่า เมื่อไหร่ดาวฤกษ์ในหลุมดำจักรวาลจะเปร่งแสงเชิงประจักษ์ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"ผมเข้ามาสัมผัสพบข้อเท็จจริงมากมายครับ ถ้าสมมติ สตช. เป็นกิจการธุรกิจแต่เจ้าของกิจการไม่สามารถเลือกและแต่งตั้ง CEO,CFO, ผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก แม้กระทั่ง HR องค์กรได้ โดยมีบุคคลภายนอกเข้ามาทำโผ และสั่งให้แต่งตั้งตามใจผู้มีอิทธิพลมืดนอกบริษัท ท่านว่าบริษัทนั้นจะประสบชะตากรรมอย่างไร รุ่งโรจน์หรือรุ่งริ่ง

 

สตช. ในอดีต ผบ.จะแต่งตั้งนายพลซักคนยังแทบจะทำไม่ได้หรือไม่ได้เลย เพราะในมือมีอำนาจมือจัดโผยัดใส่มือมาจนเกิดระบบโควต้าสัดส่วนจนเป็นที่ยอมรับกันจนเป็นจารีต แต่สัดส่วนที่มีอยู่ในมือ ผบ.ก็ยังถูกมาเบียดกินแดนจนไม่เหลืออีกเช่นเคย

 

กิจการของ สตช. ไม่ใช่บริษัทหรือกิจการส่วนตัว แต่เป็นกิจการสารธารณะบันไดขั้นแรกในกระบวนการยุติธรรม เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน แต่ความบิดเบี้ยวข้างต้นถูกกระทำมานานนับทศวรรษส่งผลให้บุคลากรที่เป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงในตนเองที่พอจะเป็นหลักขององค์กรและสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้กลับไม่ได้รับการดูแลพัฒนา แต่ไปเก็บและกดจนเขาไว้จนกลายพันธุ์เป็นดาวเคราะห์ที่ไม่มีแสงในตนเอง หรือไม่ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นนักวิ่งเต้นเข้าช่องทางสีเท่าเพื่อให้ได้รับการดูแลจากกลุ่มจัดโผ เว้นแต่มีข้าราชการตำรวจน้ำดีบางท่าน "เป็นผู้ที่รอด"จนสามารถเข้าลู่ได้มาขับเคลื่อนองค์กรได้

ฉะนั้น สตช. ที่รอดมาเป็นผู้เป็นคนมาได้จนถึงปัจจุบันนี้ ผมไม่รู้ว่ามีเทวดาฟ้าดินองค์ใดเข้ามาปกป้องคุ้มครองจึงพออยู่แบบพอมาพอไปได้อย่างที่เห็น แต่สุดท้ายฝีก็แตก…

 

ถึงเวลาแล้วที่ต้องขจัดอำนาจมืดทั้งมวลที่เข้ามาแซกแซงองค์กร สตช. ผมเองได้รับการสรรหาและแต่งตั้งเป็น ก.พ.ค.ตร. แม้จะเป็นจุดเล็กๆที่เป็นดาวฤกษ์และมีแสงในตัวเองที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมดำแห่งจักรวาล แต่จักค่อยๆแปร่งแสงด้วยการยืนตัวตรง จัดระเบียบใน สตช. ภายใต้อำนาจและหน้าที่ของตนเองอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยและท้อถอย

ความโชคดีของ ก.พ.ค.ตร. ชุดปัจจุบัน คือ เรามีบทสวดเดียวกัน คือ เราเป็นคนไม่มีอนาคตทุกท่าน เราเหลือแต่ช่วงชั้นสุดท้ายของชีวิต จึงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเจตนารมณ์ของพวกเราที่เข้ามารับภารกิจนี้ได้ เราจักรักษาข้าราชการตำรวจที่เป็นดาวฤกษ์และคนดี และขจัดคนไม่ดีออกไปจากองค์กร และเฝ้าระวังดูกฎระเบียบ และการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรมตามบทบาทและอำนาจหน้าที่ของเราด้วยความกล้าหาญ

#เราไม่ต้องการอะไรนอกจากกำลังใจ

เช็กสัญญาณ"ก.พ.ค.ตร."ผ่านจุดยืน ธวัชชัย ไทยเขียว"ก่อนชี้ชะตา"บิ๊กโจ๊ก"

 

เมื่อพิจารณาจากข้อความของ"นายธวัชชัย"ที่ต้องการสื่อสารการทำงาน กรรมการ ก.พ.ค.ตร.ชุดนี้ออกมา  สามารถนำไปสู่การหาคำตอบ ปม พิจารณา คำร้องอุทธรณ์"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" ในปลายเดือนนี้ได้เช่นกัน ว่าผลคำวินิจฉัย จะออกมาอย่างไร 

"ชอบหรือไม่ชอบด้วยกม."