ระทึก"บิ๊กโจ๊ก" ก.พ.ค.ตร. ชี้ชะตา มีลุ้นถึงเก้าอี้ "ผบ.ตร." หรือไม่ 

28 กรกฎาคม 2567  เส้นทางในชีวิตราชการตำรวจ ของ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  หักพาล"  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังเข้าสู่โค้งระทึกอีกครั้งหลังจาก "ทีมข่าวเนชั่นทีวี" ได้รับรายงาน"คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ" หรือ "ก.พ.ค.ตร."  จะมีการพิจารณาวาระ คำร้องอุทธรณ์  "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"  กรณี คำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผบ.ตร. ให้"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  หักพาล"ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ว่าผลจะออกมาหัวหรือก้อย  

แม้ก่อนหน้านี้ "ก.ตร." เคยมีมติ 12 ต่อ 0 ว่าเป็นคำสั่งโดยชอบแล้วก็ตาม เพราะนั่นจะมีผลไปถึง การพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ด้วย 

 

"เนชั่นทีวี"ได้รับข้อมูล จาก "พล.ต.อ.เอก  อังสนานนท์"  กรรมการข้าราชการตำรวจ  หรือ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ  ถึงการประชุม ก.พ.ค.ตร. ในช่วงปลายเดือนนี้ จะมีมติกรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ร้องอุทธรณ์เข้ามา พร้อมกับวิเคราะห์ เส้นทาง "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  หักพาล" กับเก้าอี้"ผบ.ตร." ยังพอมีลุ้นต่อหรือไม่จากกรณี หากมติ "ก.พ.ค.ตร." ออกมาแนวทางใดแนวทางหนึ่ง 

31 ก.ค. ชี้ชะตา "บิ๊กโจ๊ก" ลุ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. 

"พล.ต.อ.เอก"  เปิดเผยว่า  เท่าที่รับทราบมา กพค.ตร.ที่จะวินิจฉัยประเด็นการให้ออกจากราชการของ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  หักพาล"  คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ ( คุยนอกรอบ คือวันที่ 31 กรกฎาคม )  ถ้าวินิจฉัยเป็นคุณต่อ"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" หมายถึงคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไม่ชอบ ต้องสั่งให้ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  หักพาล"กลับมารับราชการตำรวจในตำแหน่ง รองผบ.ตร.เหมือนเดิม ตั้งแต่เมื่อครั้งเมื่อมีคำสั่งให้ออกไป ซึ่งแน่นอน กลับมาท่านก็มีสถานะเป็นรองผบ.ตร.

ฉะนั้น การแต่งตั้งประจำปีนี้ ซึ่งจะเริ่ม เดือนตุลาคม ท่านก็เป็นแคนดิเดต ในการที่นายกฯต้องพิจารณาเสนอชื่อ แต่ถ่าหากว่า การพิจารณาไม่เป็นคุณ ตามกฎหมาย  ท่านสามารถใช้สิทธิฟ้องศาลปกครองต่อไป  ซึ่งตรงนี้ก็เป็นประเด็นว่า ถ้าพิจารณาไม่เป็นคุณท่านก็ยังไม่ได้กลับมา ท่านไม่มีสิทธิ์เป็นแคนดิเดต ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ประจำปีนี้ คงต้องรอให้ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัย ในเรื่องที่ถูกออกจากราชการไว้ก่อน ท่านถึงกลับมารับราชการได้ 

"บิ๊กโจ๊ก" อุทธรณ์ศาลปค.สูงสุดทันแต่งตั้ง ผบ.ตร.หรือไม่ 

"ทีมข่าวเนชั่นทีวี"  สอบถาม "พล.ต.อ.เอก" ประเมินไทม์ไลน์ ในกรณีเวิอร์สเคส "ก.พ.ค.ตร." มีมติ คำสั่งให้ออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ปรากฎว่า "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" เดินหน้าสู้ฟ้องศาลปกครองสูงสุด ซึ่งระยะเวลาการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด กว่าจะได้คำตอบ จะทัน เวลาการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ หรือไม่ซึ่ง "พล.ต.อ.เอก" ฟันธงเลยว่า  การพิจารณาคดีของศาลปกครองสุงสุดจะเลยเวลาการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ตุลาคมนี้แน่  “ คาดว่าไม่ทัน” 

ต้องเรียนอย่างนี้ กรณีท่านรอง "สุรเชชษฐ์" ท่านถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ ท่านพ้นตำแหน่ง รองผบ.ตร.ชั่วคราว ณ ขณะนี้ สถานภาพของท่าน ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.

เพราะฉะนั้นคุณสมบัติการแต่งตั้ง คนที่จะเป็นผบ.ตร. จะต้องดำรงตำแหน่งรองผบ.ตร.ในเบื้องต้น ส่วนที่ท่านให้อกไป ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านได้ ก็คือฟ้องศาลปกครองสูงสุด ในส่วนการแต่งตั้ง ท่านจะมาวีโต้การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่ได้ ต้องแยกออกจากกัน 

 

4 แนวทางการวินิจฉัยคำร้องอุทธรณ์ของ ก.พ.ค.ตร.

 

1.ไม่รับอุทธรณ์ ด้วยเรื่องอุทธรณ์ไม่อยู่ในเงื่อนไขที่ ก.พ.ค.ตร. จะรับไว้พิจารณาได้ เช่น เป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในอำนาจ หรือผู้อุทธรณ์ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์อุทธรณ์ตามกฎหมาย หรือยื่นพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือเป็นเรื่องที่เคยอุทธรณ์ และ ก.พ.ค. ตร.ได้มีคำวินิจฉัยในเรื่องนั้นแล้ว หรือเคย

2.อุทธรณ์มาแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณา ก.พ.ค.ตร. ก็จะมีคำวินิจฉัยไม่รับอุทธรณ์ และจำหน่ายออกจากสารบบ โดยไม่ต้องพิจารณาในเนื้อหาของอุทธรณ์ ซึ่งกรณีคำร้องอุทธรณ์ของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กรรมการเจ้าของสำนวนมีคำสั่งรับไว้พิจารณาแล้วดังกล่าวข้างต้น

3.ยกอุทธรณ์ ด้วยคำสั่งทางปกครองที่นำมาอุทธรณ์นั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น ให้แก้ไข เพราะคำสั่งที่นำมาอุทธรณ์นั้น ไม่ถูกต้องบางส่วน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายบางส่วน จึงวินิจฉัยให้แก้ไขในส่วนที่ไม่ถูกต้อง

4.ยกเลิกคำสั่งลงโทษ และอาจมีคำสั่งให้เยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้อุทธรณ์ด้วยก็ได้ รวมทั้งเร่งรัดติดตามการเยียวยา หรือให้ดำเนินการอื่นใดเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แต่จะมีคำวินิจฉัยให้เพิ่มโทษไม่ได้และ เนื่องมาจากคำสั่งที่นำมาอุทธรณ์นั้น เป็นคำสั่งที่ออกโดยไม่ถูกต้อง หรือไม่ชอบด้วยกฏหมาย อุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์นั้นฟังขึ้น จึงวินิจฉัยให้ยกเลิกคำสั่ง ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกับให้เพิกถอนคำสั่ง

ทั้งนี้ใน 4 แนวทางนี้ ก.พ.ค.ตร.รับคำร้องของ"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" ไว้พิจารณา ซึ่งเมื่อรับคำร้องไว้พิจารณาก็จะมีขั้นตอนต่างๆที่จะต้องให้คู่กรณีคือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ชี้แจง ซึ่งล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่าได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร.แล้ว

 

ฉะนั้นปลายเดือนกรกฎาคมนี้  มาติดตามกัน ว่า มติ ก.พ.ค.ตร. จะออกมาอย่างไร และ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" จะได้ไปต่อบนเส้นทางเก้าอี้ ผบ.ตร. ได้หรือไม่

ชมคลิป >>>