เปิดทางเดิน “ทักษิณ” ในคดี 112 หลังร้องขอความเป็นธรรมรอบใหม่

กรณีทางอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นัดส่งตัวฟ้อง "ทักษิณ ชินวัตร" ในคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณอดีตนายกรัฐมนตรีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันในวันที่ 18 มิ.ย.

โดยมีรายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า นายทักษิณได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่เเล้ว โดยไม่ได้มีการขอเลื่อนการเข้าพบอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องเเต่อย่างใด

สำหรับเเนวทางในวันที่ 18 มิ.ย.จะออกได้หลายทาง หากทางอัยการสูงสุดเห็นว่าคำร้องขอความเป็นธรรมมีเหตุเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่มีผลเปลี่ยนเเปลง คำสั่งคดีพิสูจน์ได้ก็อาจจะทบทวนคำสั่งฟ้องเดิม ในวันที่ 18 มิ.ย.ก็อาจเลื่อนไปก่อน เเต่ถ้าเห็นว่าคำร้องขอความเป็นธรรมซ้ำเดิม ไม่เป็นประโยชน์ เเละไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนอันเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่จะนำไปทบทวนพิจารณาเปลี่ยนเเปลงคำสั่งหรือมีลักษณะประวิงคดีเเล้วในวันที่ 18 มิ.ย.หากนายทักษิณ เดินทางมายังสำนักงานอัยการคดีอาญาก็จะถูกนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลทันที  

ซึ่งในชั้นนี้หากมีการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเเล้ว ศาลก็จะออกหมายขัง นายทักษิณจะต้องยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยผู้พิจารณาจะอนุญาตปล่อยชั่วคราวหรือไม่จะเป็นศาลชั้นต้น โดยคดีนี้คาดว่าจะมีการส่งผู้บริหารศาลอาญาเป็นผู้พิจารณาประกัน เนื่องจากเป็นคดีสำคัญสังคมให้ความสนใจ ซึ่งหลักการให้ประกันจะต้องดูว่าจำเลยมีที่อยู่เป็นหลักเเหล่ง หากปล่อยเเล้วจำเลยจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหรือไม่ ซึ่งดูเเล้วโอกาสได้ประกันตัวสูง

ในส่วนของพยานหลักฐานใหม่ที่มีผลเปลี่ยนเเปลงคำสั่งคดีพิสูจน์นั้นค่อนข้างยากมาก เว้นเเต่นายทักษิณจะได้ ต้นฉบับคลิปที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการตัดต่อไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตามที่เคยกล่าวอ้าง

กรณีการเลื่อนฟังคำสั่งจะเป็นได้ 3 กรณี

 1 .เลื่อนจากหน่วยงานราชการติดปัญหาเช่น กรณีนี้ที่มีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาใหม่ เเละมีการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งเเต่ยังไม่แล้วเสร็จ หรืออาจจะอยู่ระหว่าง อสส.พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมที่ยื่นเข้ามาใหม่

กรณีนี้นายทักษิณก็จะต้องมาทราบคำสั่งเลื่อนหรืออาจจะยกเว้นไม่ต้องเดินทางมาเอง อย่างกรณีที่เคยทำมาครั้งที่เเล้ว โดยการประสานงานกับทางอัยการ เเละปัจจุบันทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีการแสดงผลสถานะทางคดีผ่านระบบ OAG-Tracking เพื่อแจ้งให้ทราบผ่านออนไลน์ ซึ่งปกติจะเเจ้งผลก่อนวันฟังคำสั่ง ซึ่งหากอัยการมีคำสั่งเลื่อนทำให้ตัวผู้ต้องหาสามารถส่งตัวแทนมาได้และไม่ต้องมาเองเเนวทางนี้ใช้กับประชาชนทั่วไป 

2.ตัวผู้ต้องหาเป็นคนขอเลื่อนเอง แต่จะต้องแจ้งสาเหตุการเลื่อน ที่จำเป็น เล่นเจ็บป่วย หรือเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงได้  ก็สามารถยื่นเหตุความจำเป็น พร้อมหลักฐานมายื่นให้อัยการพิจารณาได้ หากอัยการพิจารณาเเล้วอนุญาตให้เลื่อนก็จะกำหนดวันนัดใหม่โดยเเจ้งให้ตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจทราบ เเต่หากไม่อนุญาตให้เลื่อนก็จะมีหนังสือเเจ้งให้มาฟังคำสั่ง โดยอาจเเจ้งผ่านตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจหรือส่งตามที่อยู่ทะเบียนบ้าน

หากยังไม่มาก็จะเเจ้งให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการนำตัวนายทักษิณมาฟังคำสั่งทางคดี หรือมีการใช้มาตรการขอศาลออกหมายจับต่อไป  เเต่ในกรณีขอเลื่อนเพราะเจ็บป่วยหรือเหตุจำเป็นอัยการก็สามารถอนุญาตเลื่อนได้อีก “เเต่ก็จะไม่มีผลต่อคำสั่งฟ้องของ อสส.ที่สั่งไปก่อนหน้านี้เเล้ว “

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจกรณีที่นัดส่งตัวฟ้องครั้งนี้ไม่เลื่อนเเละนายทักษิณถูกนำตัวส่งฟ้องนายทักษิณก็ยังสามารถร้องขอความเป็นธรรมต่อ อสส.ได้อีกในระหว่างการพิจารณาคดีในศาล เพื่อขอให้อสส.มีคำสั่งถอนฟ้องได้ กรณีเคยปรากฎในอดีตที่อสส.เคยถอนฟ้องคดีที่ไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ