การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่ฝ่ายค้านพยายามเรียกว่า “ศึกซักฟอก” เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ไฮไลท์ของการอภิปรายทั้ง 2 วัน พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำ วางน้ำหนักของประเด็นถล่มรัฐบาลแบบเฉลี่ยเท่าๆ กัน เพื่อให้การอภิปรายน่าติดตาม และไม่น่าเบื่อ
อภิปรายรอบนี้ไม่มีออมมือ
โดยธีมของการอภิปรายทั่วไป นอกจากที่ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “เพื่อไทยรัฐบาลเพื่อใคร” แล้วการอภิปรายหนนี้ กุนซือคนสำคัญและผู้นำจิตวิญญาณของพรรคก้าวไกลยืนยันว่า สส.ของพรรคจะอภิปรายอย่างเต็มที่ ไม่มีออมมือ เรียกว่า “ชกสุดหมัด” ไม่มีเกี้ยเซี้ยให้พรรคเพื่อไทยเพื่อ “ไว้ไมตรี” ตามที่มีกระแสวิจารณ์มาตลอด
พรรคก้าวไกลต้องการจะทำการอภิปรายครั้งนี้ให้สังคมได้เห็นว่า ในระบอบการเมืองแบบนี้ จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองอย่างก้าวไกล เอาไว้ถ่วงดุลกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลจะไม่หายไปจากการเมืองไทย ไม่ว่าจะถูกยุบอีกกี่ครั้งก็ตาม เนื่องจากพรรคสามารถทำหน้าที่ตรวจสอบผู้มีอำนาจได้เป็นอย่างดี
วันแรกพุ่งเป้าเศรษฐกิจปากท้อง
สำหรับคิวอภิปรายในวันแรก จะเน้นเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง โดยเปิดญัตติด้วยการอภิปรายของ นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายชวน หลีกภัย ปูชนียบุคคลของพรรค เป็นผู้อภิปรายหลักของพรรคในวันแรก
จัดหนัก “ยุคทุกอย่างเถื่อน” - ชำแหละเรือหลวงสุโขทัย
โดยไฮไลท์ของการอภิปรายวันแรก จะมี สส.ก้าวไกล 3-4 คน อภิปรายเป็นแพ็กข้อมูลเรื่อง “ทุกอย่างเถื่อน” ตั้งแต่หมูเถื่อน ไก่เถื่อน เนื้อสัตว์เถื่อน ไปจนถึงหมุด สปก.เถื่อน อิทธิพลเถื่อน อำนาจเถื่อน และรัฐบาลเถื่อน
ส่วนการอภิปรายในวันที่สอง คือ วันที่ 4 เม.ย. ไฮไลท์จะเป็นประเด็นความมั่นคง มีขุนพลคนสำคัญขึ้นอภิปราย คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายชยพล สท้อนดี และนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ประเด็นสำคัญที่เปิดแล้วคาดว่าจะฮือฮา ก็คือประเด็นเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งจะมีข้อมูลลับบางอย่างที่นำมาอภิปรายชี้ให้เห็นว่า กองทัพเรือไม่ได้ตั้งใจจะกู้เรือขึ้นมาจริงๆ ด้วยเหตุผลบางประการ ส่วนเหตุผลจะเป็นอย่างไร ต้องรอฟัง
นอกจากนั้นในวันที่ 4 เม.ย. จะมี สส.ตัวตึงเตรียมอภิปรายอีกหลายประเทศ เช่น กาย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เป็นต้น