svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สุทิน" ชี้ "ทักษิณ-เศรษฐา" เป็นนายกฯยิ่งใหญ่ต่างแค่อดีตกับปัจจุบัน

15 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สุทิน" ปัด "ทักษิณ" กลับบ้านจุดกระแสนายกฯ 2 คน แนะอย่าเอามาเทียบกับ "เศรษฐา" เพราะคนละเลเวล ย้ำเป็นนายกฯ ยิ่งใหญ่ไม่ต่างกัน แค่ต่างกันตรงอดีตกับปัจจุบัน มอง "พิธา" ไปเชียงใหม่แค่บังเอิญ

15 มีนาคม 2567 กลายเป็นที่จับตาอย่างมากต่อการปรากฏตัวตามสถานที่สำคัญๆ ของ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี หลังมีกำหนดการเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ จนถูกตั้งหลายคำถามทั้งอาการป่วยรวมถึงผลทางการเมือง และโดยเฉพาะเรื่องการมีนายกฯ 2 คน 

ไม่ได้ตอกย้ำกระแสเรื่องนายกฯ 2 คน 

โดย "นายสุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม กล่าวถึงประเด็นนี้ โดยยืนยันว่าไม่เป็นการตอกย้ำกระแสข่าวนายกฯ 2 คน แต่ต้องยอมรับว่านายทักษิณ เป็นบุคคลสำคัญระดับโลก ไปไหนก็มีแต่คนให้ความสนใจเป็นธรรมดา และปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีคนให้ความนิยมอยู่มาก มีประชาชนไปต้อนรับและชื่นชม และยืนยันว่าไม่มีนัยการเมือง

ส่วนการลงพื้นที่ไปดูโครงการต่างๆ พร้อมให้คำแนะนำผู้ปฏิบัติ เหมือนเป็นนายกฯ เองนั้น มองว่าไม่หรอก ตนอยากให้มองในภาพของที่ปรึกษามากกว่า เมื่อเห็นโครงการอะไรก็อยากแนะนำ 

ลงพื้นที่หยั่งแสเพื่อไทย-ไม่ใช่ทำเพื่อส่วนตัว

นายสุทิน กล่าวถึงมีการมองว่านายทักษิณ ลงพื้นที่เพื่อหยั่งกระแสความนิยมของตัวเองและพรรคเพื่อไทยนั้น ซึ่งกระแสของพรรคอาจจะใช่ แต่ถ้ากระแสส่วนตัวคงไม่ใช่ เพราะนายทักษิณไม่ประสงค์จะกลับมาทางการเมืองแล้ว จึงไม่จําเป็นต้องหยั่งกระแส 

"พิธา" มาเชียงใหม่เป็นเรื่องบังเอิญคงไม่แย่งซีน

ส่วนที่มีข่าวว่า "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ด้วย เหมือนไปวัดความสามารถแข่งกันนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า

รมต.-ขรก.เดินตามเป็นเรื่องการเคารพนับถือ

สำหรับการลงพื้นที่โดยมีรัฐมนตรีหรือข้าราชการท้องถิ่น ไปเดินตามนายทักษิณ คงเป็นเรื่องการให้ความเคารพนับถือกันมากกว่า ซึ่งในทางส่วนตัวถือว่าไปได้ บางคนอาจจะไปขอคำปรึกษา ในฐานะที่นายทักษิณ เป็นคนมีประสบการณ์ บริหารราชการมาจนสำเร็จ ไม่น่าคิดอะไรมาก

ส่วนมีทีมนายตำรวจติดตาม "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกฯ และรมว.คลัง ไปอำนวยความสะดวกให้นายทักษิณด้วย มองว่าคงเป็นลักษณะการยืมตัว ไม่อยากใช้ตำรวจหน่วยอื่น เพราะไหนๆ ตํารวจชุดนี้ ก็ทำงานให้นายเศรษฐาอยู่แล้ว ก็เลยขอยืมไปช่วยดูแล

 

"ซึ่งความจริง ถ้าคนระดับนี้เดินทางไปไหน แม้ไม่ได้ขอ แต่ทางฝ่ายรักษาความสงบ ก็ต้องส่งคนไปดูแล ดังนั้น นายทักษิณ อาจคิดว่าขอเอาคนที่ไว้ใจที่สุด ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ดูแลนายเศรษฐา ก็เท่านั้น" นายสุทิน ระบุ

คนละเลเวลอย่าเอามาเทียบกัน

อย่างไรก็ตาม การที่สื่อและประชาชนให้ความสนใจนายทักษิณ ทำให้ภาพการเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐา ดูลดลงไปนั้น คิดว่าคนละเลเวล คนละระดับกัน นายเศรษฐา คือ นายกฯ ตัวจริง แต่นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ความนิยมของประชาชนคนละแบบ นายทักษิณถือเป็นอดีตนายกฯ ที่ยิ่งใหญ่ ส่วนนายเศรษฐา ก็ถือเป็นนายกฯ คนปัจจุบันที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่แยกแยะออก

"ทักษิณ" ไม่กลับเป็นนายกฯ

เมื่อถามว่า หากนายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่ยิ่งใหญ่ ประชาชนอาจจะเรียกร้องให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง นายสุทิน กล่าวว่า อดีตคือผ่านไปแล้ว ถ้ายุคนี้ก็ต้องเป็นคนอื่น แม้จะเรียกร้อง ก็คิดว่าไม่มา แต่คงอยู่ในฐานะให้คำปรึกษาทุกคน และทุกรัฐบาล น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า 

เมื่อถามย้ำว่า ในอนาคตนายทักษิณจะมีอิทธิพลต่อรัฐบาลนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่มีอิทธิพล แต่มีบทบาทในเรื่องการให้คำแนะนำ และถ่ายทอดประสบการณ์มากกว่า ขณะเดียวกัน ส่วนตัวได้ขอเข้าพบนายทักษิณแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่รีบ รอให้นายทักษิณโล่งๆ ก่อน

เชื่อประชาชนเห็นความจริงแล้ว

ขณะที่ "นายราเมศ รัตนะเชวง" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ของ นายทักษิณ นั้น เชื่อว่าทุกคนจะรู้ความจริงที่ปกปิดมาอย่างยาวนาน ในเรื่องของอาการป่วย ที่เห็นสุขภาพร่างกายชัดเจนว่าไม่เป็นไปตามที่บุคคลในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงรัฐมนตรีและคนของพรรคเพื่อไทยได้ออกมาชี้แจง

 

"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่สามารถหลอกประชาชนได้ รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ขณะนี้คนในรัฐบาลคิดว่ามีอำนาจคิดจะทำอะไรก็ได้ แต่อำนาจที่ใช้อย่างอำเภอใจย่อมมีพิษภัยตามมาอย่างแน่นอน" นายราเมศ ระบุ

 

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ทุกคนสิ้นหวัง หากจะพึ่งพาอำนาจจากหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐบาลในการตรวจสอบท้วงติง จึงต้องฝากความหวังไว้ที่องค์กรอิสระในการเข้ามาช่วยกันตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะลำบากในเรื่องหลักการความถูกต้อง

วาน ป.ป.ช. สอบอาการป่วยตรงกับความจริงไหม

นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบ กระบวนการรับโทษของนายทักษิณทั้งกระบวนการอย่างละเอียดว่า อาการป่วยสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในวันนี้หรือไม่ ที่ประชาชนมองออกว่าสภาพร่างกายไม่ถึงกับขนาดต้องอยู่โรงพยาบาลตำรวจตลอดจนถึงวันพักโทษ

เปรียบเหมือนโรงละครตบตาประชาชน

 

"เรื่องนี้ต้นทางเริ่มต้นผิดมาตลอด ประชาชนตั้งคำถามตลอดมา คำสัมภาษณ์ของหน่วยงาน และคนในระบบทักษิณ ก็เป็นหลักฐานประกอบที่สำคัญด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ทั้งหมดเป็นโรงละคร ที่แสดงตบตาประชาชน ระบบทักษิณกลับฟื้นคืนมา พร้อมกับความเสียหายของบ้านเมือง ที่เริ่มมีให้เห็น ต้องรอดูตอนจบ สุดท้ายรอบนี้ระบบทักษิณจุดจบจะเป็นอย่างไร" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

 

logoline